“ชูศักดิ์” ยันต้องระมัดระวังเต็มที่ ตั้งรมต.-ขรก.การเมือง

“ชูศักดิ์” ยันต้องระมัดระวังเต็มที่ ตั้งรมต.-ขรก.การเมือง หลังศาลรธน.ไม่วินิจฉัยปมกริบคุณสมบัติซื่อสัตย์สุจริต-มาตรฐานจริยธรรม โอดนักการเมืองไม่ใช่พระประวัติใสกิ๊ง หวังแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เชื่อ 17 มี.ค.รัฐสภาส่งตีความ ทำประชามติก่อนแก้รธน.
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายก และฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัย การตีความเรื่องมาตรฐานจริยธรรม และ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ว่า ศาลรัฐธรรมนูญตอบมาค่อนข้างชัดเจน ซึ่งจริงๆเราก็ทราบแนวทางของศาลพอสมควร แต่เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาจริงๆ ในแง่ของการตีความหลักสำคัญจะแต่งตั้งบุคคลใด ต้องเอาประวัติมาดู
ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนถูกปรับในข้อหาจอดรถในที่ห้ามจอด ต้องถามสื่อมวลชนว่าถือว่าไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่เพราะฉะนั้นดุลพินิจกว้าง ซึ่งตามหลักนิติรัฐและนิติธรรม กฎหมายต้องมีความแน่นอนเราถึงพยายามทำเรื่องนี้ให้ชัด แต่ในเมื่อศาลไม่ตอบก็ไม่รู้จะทำอย่างไร และหลังจากนี้จะแต่งตั้งใครต้องใช้ดุลพินิจกันเอง
ส่วนหลังจากนี้หากจะตั้งใครต้องระวังความสุ่มเสี่ยงเองเลยใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า จะว่าสุ่มเสี่ยงก็ได้ แต่ต้องใช่ความระวัดระวังเต็มที่ ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าต้องสแกนคุณสมบัติถี่ยิบเหมือนตั้งครม.แพทองธาร 1 ใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือ (สลค.) ตรวจสอบ และสอบถามไปคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งมันไม่จบเพราะเมื่อเป็นดุลยพินิจก็จะเป็นปัญหาตามมา ต้องชั่งน้ำหนักดู
ส่วนหากในอนาคตปรับครม. และเสนอชื่อใครแล้วสังคมตั้งคำถามจะทำอย่างไร นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งหมดต้องเอามาประมวลกันว่าใครคิดเห็นอย่างไรมาชั่งน้ำหนักเอาเพราะท้ายที่สุดคนที่ตั้งต้องรับผิดชอบ
ส่วนหลังจากนี้ไปต่อไปจะตั้งใครต้องมีประวัติใสกิ๊งเลยใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า หากพูดตรงไปตรงมา การเมืองบ้านเรามาแบบนี้ นักการเมืองก็ไม่ใช่นักบวช ขนาดพระยังมีข้อครหา ก็ต้องดูจนกว่าจะทำการเมืองให้ใสสะอาด เราก็เห็นกันอยูว่าเมื่อมาถึงจุดนี้เป็นอย่างไร เขาถึงเรียกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่า รัฐธรรมนูญปราบโกง แต่หลักสำคัญควรจะมีการกำหนดมาตรฐานชัดเจน ไม่เปิดโอกาสให้ตีความได้หลายทาง
ส่วนต้องไปหวังในการแก้รัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ต้องไปพูดคุยกันหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่ตนไม่ได้หมายความว่าจะให้ลดมาตรฐานจริยธรรม แต่อยากให้ชัดเจนเมื่อถามว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญส่งสัญญาณมาเช่นนี้ จะกระทบเหตุการณ์ในวันจันทร์ที่ 17 มีนาคม ที่รัฐสภาจะขอมติ ให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าต้องทำประชามติก่อนการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่
นายชูศักดิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่แตกต่างกัน เนื่องจากประธานรัฐสภา บรรจุวาระ และเกิดความขัดแย้ง เนื่องจากสส.ส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วย โดยมองว่าประธานสภาฯไม่มีอำนาจบรรจุและถือเป็นคนละกรณีกับกรณียื่นถามเรื่องมาตรฐานจริยธรรม พร้อมกับมองว่าศาลรัฐธรรมนูญอาจจะรับวินิจฉัยเรื่องการทำประชามติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews