“อนุทิน” โต้กลับ “ทรัมป์” ยันไทยถูกเขมรรุกราน
จนถึงวันนี้ฝ่ายกัมพูชา ยังคงยิงจรวด BM-21 โจมตีไทยต่อเนื่อง และฮุน เซน ยังบอกพร้อมรบระยะยาว โดย“รมว.กลาโหม”ยืนยันไทยมีหลักฐานชี้ชัดพฤติกรรมกัมพูชา ทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายประเด็น ทั้งละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ใช้พลเรือนและโบราณสถานเป็นที่มั่น และยังบอกว่า หลายประเทศแสดงท่าทีเป็นกลาง แต่เหมือนไปยืนฝั่งกัมพูชา ซึ่งนายกฯ ได้ตอบโต้“ทรัมป์”ที่กล่าวหาไทย โดยย้ำว่า เราเป็นฝ่ายที่ถูกรุกราน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนองบประมาณในการเยียวยาแก่กำลังทหารที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา รอบที่ 2 ซึ่งล่าสุด มีทหารเสียชีวิตแล้ว 22 นาย โดยจะเป็นไปตามกรอบงบประมาณเดิม คือ กำลังพลที่เสียชีวิต รายละ 10 ล้านบาท ขณะประชาชน รายละ 8 ล้านบาท
ด้านพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่จังหวัดจันทบุรี ในวันพรุ่งนี้ ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการหารือระดับฝ่ายเลขา และหากผลไม่เป็นไปตามกรอบที่ไทยเห็นชอบ จะไม่ลงนามใดๆ โดยย้ำว่า จากพฤติกรรมของกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา พบการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศอย่างน้อย 5 ประเด็นสำคัญ ทั้งการครอบครอง ผลิต และใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา การใช้โบราณสถานและชุมชนเป็นที่ตั้งทางทหาร การใช้อาคารพลเรือนเป็นคลังอาวุธ รวมถึงการใช้พลเรือนเป็นโล่กำบัง
พลเอกณัฐพล ยังขอบคุณทหารกัมพูชาที่บันทึกหลักฐานการวางทุ่นระเบิดไว้ในพื้นที่บ้านสามหลัง พบว่า มีเอกสารที่ระบุพิกัด โดยมุมขวาบนของเอกสาร จะเขียนว่า “30/10/2025” คือ วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจาก 2 ประเทศเซ็นปฏิญญาสันติภาพร่วมกัน ที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันที่ 26 ต.ค. 68 แต่มาวางทุ่นระเบิด ในวันที่ 30 สะท้อนว่าไม่ได้ปฏิบัติตามอย่างชัดเจน
และยังมีการวางทุ่นระเบิดและยิงอาวุธเข้ามาในฝั่งไทยอย่างต่อเนื่องปัจจุบัน ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงช่วงเช้าในบางพื้นที่ก็ยังมีการยิง BM-21 เข้ามา และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ก็ยังบอกอีกว่าพร้อมที่จะรบในระยะยาว
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังระบุด้วยว่า กัมพูชาใช้ล็อบบี้ยิสต์ ไม่มีประเทศไหนที่มายืนข้างเราจริงๆ แม้หลายประเทศแสดงท่าทีเป็นกลาง แต่เหมือนไปยืนฝั่งกัมพูชา รับฟังข้อมูลจากกัมพูชา และมองว่าไทยเป็นฝ่ายรุกราน ซึ่งย้ำว่าไทยดำเนินการป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ มาตรา 51 อย่างจำเป็นและได้สัดส่วน พร้อมยืนยันยึดกฎหมายระหว่างประเทศเป็นหลัก แม้ไม่มีประเทศใดออกมาหนุนไทยหรือประณามกัมพูชากรณีวางทุ่นระเบิดในดินแดนไทย
ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้พูดถึงกรณีหลายประเทศเข้าข้างกัมพูชา จะทำอย่างไรที่จะทำให้นานาชาติกลับมาเข้าใจประเทศไทย ว่า เป็นเรื่องทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชา ยังไม่เห็นมีประเทศไหนที่บอกว่า ยืนอยู่ข้างใคร ประเทศที่มาพูดคุยก็บอกว่าเป็นกลางหมด ก็ยินดีที่ทุกประเทศเป็นกลาง
ส่วนที่มีรายงานข่าวว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระบุเชิงกล่าวหาว่าฝ่ายไทยเป็นฝ่ายที่เปิดการโจมตีกัมพูชาก่อน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ความจริงทุกคนทราบอยู่แล้ว ไม่มีความกังวลใดๆ เราเป็นฝ่ายถูกรุกรานถูกโจมตีก่อน สิ่งที่เราทำคือการตอบโต้เพื่อปกป้องอธิปไตยของเรา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





