“ดร.เอ้” ชูอาชีวะคือหัวใจพัฒนาชาติ จี้ กทม. เอาจริงควันดำ
“ดร.เอ้” ชูอาชีวะคือหัวใจพัฒนาชาติ ลั่นหากได้เป็นรัฐบาลจะทำ “อาชีวะเรียนฟรี–มีคุณภาพ” จี้ กทม. เอาจริงควันดำ–ไซต์ก่อสร้าง ฝุ่น PM 2.5 พุ่ง เตือน “กฎหมายดีแต่ไม่ใช้ ก็ไร้ค่า” ขอ ส.ว. เร่งผ่าน พ.ร.บ.อากาศสะอาด
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ลงพื้นที่วิทยาลัยเทคโนโลยีมีนบุรีโปลีเทคนิค ในโครงการ “คุยให้ชัด ปรับให้ตรง ร่วมทางสร้างไทยกับอาชีวะไทยก้าวใหม่ สัญจร” พร้อมประกาศชัดว่า “อาชีวศึกษา” คือหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศ เพราะเป็นเส้นทางสร้างโอกาส หลุดพ้นจากความยากจน และยกระดับเศรษฐกิจของไทยในอนาคต
ดร.เอ้ ระบุว่า ที่ผ่านมา “รัฐบาลให้ความสำคัญกับอาชีวะเพียงในคำพูด แต่ไม่ลงมือทำจริง” ทำให้เด็กอาชีวะจำนวนมากยังขาดการสนับสนุน ทั้งด้านงบประมาณและคุณภาพการเรียนการสอน ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำระหว่างสถาบันรัฐและเอกชนสูงขึ้น
และอาชีวะถูกมองว่าเป็นทางเลือกของคนจน ทั้งที่ควรเป็น “กำลังหลักของเศรษฐกิจไทยยุคใหม่” ดังนั้น เราต้องทำให้อาชีวะไทยเป็นเหมือนญี่ปุ่น เยอรมนี ที่เด็กจบแล้วมีงานทำ มีรายได้ และสร้างเศรษฐกิจได้จริง
หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ยืนยันว่า หากได้เป็นรัฐบาล จะเริ่มผลักดันนโยบาย “อาชีวะเรียนฟรี–มีคุณภาพ” ทันทีในวันแรกของการบริหาร โดยรัฐจะต้องสนับสนุนงบประมาณให้ทั้งสถาบันของรัฐและเอกชนอย่างเท่าเทียม เพื่อยกระดับคุณภาพการสอนและลดภาระของครอบครัวผู้มีรายได้น้อย พร้อมชี้ว่าการลงทุนด้านอาชีวะ “ใช้เงินไม่มาก แต่คืนกำไรทางเศรษฐกิจมหาศาล”
ขณะเดียวกัน นายสุชัชวีร์ ยังเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐและกรุงเทพมหานคร (กทม.) เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อม หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ในหลายเขตของกรุงเทพฯ พุ่งเกินมาตรฐาน จนกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
โดยต้นเหตุของปัญหาฝุ่นไม่ได้อยู่ที่การไม่มีหรือขาดกฎหมาย แต่เกิดจากการไม่บังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่” โดยเฉพาะการปล่อยให้รถควันดำวิ่งบนถนน ทั้งที่มีกฎหมายควบคุมและหน่วยงานรับผิดชอบชัดเจน ถ้า กทม. จริงจังกับการบังคับใช้กฎหมาย ฝุ่นจะลดลงได้ทันทีทุกเขต ไม่ต้องรอกฎหมายใหม่
พร้อมตั้งคำถามถึงมาตรการควบคุมฝุ่นจากไซต์ก่อสร้าง ว่ามีการปิดคลุมผ้าใบ ป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจายอย่างถูกต้องหรือไม่ เหมือนในประเทศพัฒนาแล้ว เพราะเพียงดูแลตรงนี้อย่างจริงจัง ก็สามารถลดแหล่งกำเนิดฝุ่นได้
ส่วนร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา ดร.เอ้ กล่าวว่า เห็นด้วยอย่างยิ่ง และอยากให้ ส.ว. เร่งผ่านกฎหมายฉบับนี้โดยเร็ว เพราะจะเป็น “เครื่องมือสำคัญ” ที่เปิดเผยต้นตอของผู้ก่อมลพิษ และให้อำนาจท้องถิ่นในการจัดการปัญหาได้โดยตรง
และย้ำว่า ต่อให้มีกฎหมายที่ดีที่สุดในโลก แต่ถ้าผู้บังคับใช้กฎหมาย เช่น เจ้าหน้าที่รัฐ หรือ กทม. ไม่จริงจังในการบังคับใช้ จะออกกฎหมายเพิ่มอีกกี่ฉบับก็ไม่ช่วยอะไร กฎหมายดีแต่ไม่ใช้ ก็เท่ากับไม่มี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





