ปชน.พร้อมสับนโยบาย “รบ.อนุทิน”-“ณัฐพงษ์” ย้ำเดินตาม MOA
ปชน.พร้อมสับนโยบายรัฐบาล “อนุทิน” อภิปรายทั้งบุคคล-ภาพรวม “ณัฐพงษ์” ย้ำ เดินตาม MOA มั่นใจแก้ รธน. หมวด 15 ทันใน 4 เดือน พร้อมยันจุดยืนเดิม บางส่วน ม.112 มีปัญหา ต้องแก้ภายในกรอบคำวินิจฉัยศาล รธน.
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคในการอภิปรายวันแถลงนโยบายรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ โดยย้ำว่า พรรคประชาชนได้เปิดให้ ส.ส.ลงชื่อเพื่อร่วมอภิปราย ทั้งในประเด็น “ภาพรวม” ของนโยบายรัฐบาล และ “รายบุคคล” ของผู้ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า กรอบหลักของการอภิปรายจะครอบคลุมถึงคุณสมบัติของบุคคลที่เข้ามาดำรงตำแหน่ง หากเป็นบุคคลที่สังคมเห็นชัดเจนว่ามีคดีหรือผลประโยชน์ทับซ้อน พรรคจะนำมาตรวจสอบอย่างเข้มข้น
ขณะเดียวกัน จะพิจารณานโยบายที่อาจสร้างภาระผูกพันไปยังรัฐบาลชุดถัดไป โดยย้ำว่า ช่วงเวลาของรัฐบาลเฉพาะกาล 4 เดือน ต้องใช้งบประมาณอย่างระมัดระวัง แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่าที่จำเป็น ไม่สร้างหนี้ผูกพันหรือโครงการใหญ่ที่บั่นทอน เสถียรภาพการคลังในอนาคต
ทั้งนี้ สิ่งที่วิญญูชนเห็นได้ว่า น่าจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องคดี ผลประโยชน์ พรรคประชาชนก็จะตรวจสอบทั้งหมด ส่วนด้านนโยบาย หากมีความเสี่ยงทำให้ประเทศต้องรับภาระเกินควร ก็จะถูกอภิปรายเช่นเดียวกัน
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ทุกพรรคการเมือง ทั้งภูมิใจไทย เพื่อไทย และประชาชน เห็นตรงกันว่าสามารถเดินหน้าแก้ไขหมวด 15 ได้ทันภายใน 4 เดือน หากมีการวางกรอบเวลาและบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยพรรคประชาชนเตรียมเสนอให้กำหนด “เงื่อนไขเวลา” เป็นตัวตรวจสอบรัฐบาลอนุทิน หากมีการถ่วงเวลา บิดพลิ้ว หรือไม่ทำตามที่ตกลงไว้ พรรคประชาชนพร้อมใช้เสียง 143 เสียงในสภาเข้ากำกับตรวจสอบทันที
นายณัฐพงษ์ ยังตอบโต้กรณี น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. พรรคประชาชน ที่ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคประชาชนไม่เข้าร่วมรัฐบาล จึงเปิดทางให้ภูมิใจไทยจัดโควตาคนนอกเข้ามาใน ครม. ขอย้ำว่าเป็นความเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่ท่าทีของพรรค
พร้อมยืนยันหนักแน่นว่า พรรคประชาชนไม่มีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล และจะพิสูจน์บทบาทด้วยการอภิปรายในสภา ทั้งนี้ เราเป็นฝ่ายค้าน
ไม่ได้มีส่วนคัดเลือกหรือสนับสนุนรัฐมนตรีใด ๆ สิ่งที่จะยืนยันเรื่องนี้ได้ดีที่สุด คือ การทำหน้าที่อภิปราย ตรวจสอบรัฐบาลอนุทิน 1 อย่างเข้มข้นในวันแถลงนโยบาย
ขณะเดียวกัน นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 กับ TIME ว่า เรื่องนี้ ยึดหลักตามเดิมมาโดยตลอด ตามที่ตนได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อช่วงต้นๆ ที่มารับหน้าที่ หัวหน้าพรรค ทุกอย่างจะต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อยู่ภายใต้กรอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น ซึ่งตนยังยืนยันคำเดิมว่า หากมองไปยังกฎหมายฉบับนี้
บางส่วนก็ยังมีปัญหา แต่จะแก้อย่างไร ก็ต้องแก้ภายใต้กรอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ดี
ส่วนคำที่ออกมาใช้คำว่าพร้อมแก้ไขเมื่อมีอำนาจ จะไม่ทำให้พรรคถูกอุบัติเหตุทางการเมืองหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้าหมายถึงนิติสงคราม ตนก็ไม่สามารถตอบได้เพราะเป็นปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้จริงๆ แต่ถ้าถามด้วยหลักการ คือจุดยืน ตนเชื่อว่าสิ่งที่เราสะท้อนออกไปก็พบว่ากฎหมายฉบับนี้ยังมีปัญหาบางประการจริงๆ
ส่วนความเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดการรวมเสียงให้สามารถผลักดันได้ผ่านสภาหรือไม่ อาจจะอยู่ที่จุดยืนร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาลหรือจุดยืนของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งตนเชื่อว่าการเมืองในอนาคตจะมีทางออก คือเสียงของพี่น้องประชาชนที่จะมอบให้กับการเลือกตั้งครั้งหน้า
ขณะพรรคประชาชนตอนนี้เหมือนกับเดินไปตามกรอบของศาลรัฐธรรมนูญมากเกินไป จนทำให้ลดอำนาจรัฐสภาลง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ทำไมเราต้องเรียกร้องให้เดินหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
และพรรคประชาชนเองตัดสินใจโหวตเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 หนึ่งในเงื่อนไขสำคัญ นอกจากการยุบสภาภายในกรอบ 4 เดือน คือ การเปิดประตูสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ซึ่งเราต้องการวางบทบาทอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระให้เป็นไปตามหลักสากล และยุติกระบวนการนิติสงคราม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
