Home
|
บันเทิงไทย

โหนกระแสล่าสุด “โม” เผยเรื่องราวของ “บอส” เคลียร์ประเด็นเรียกเงิน

Featured Image
โหนกระแสล่าสุด “โม” เผยเรื่องราวของ “บอส” เคลียร์ประเด็นเรียกเงินแลกกับไม่เปิดหลักฐาน ยืนยัน ตนไม่ได้ส่งข้อมูลให้เพจดัง

 

กลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อ “โม” ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ที่จบลงไม่สวยกับ “บอส” อดีตคนรัก และไขข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงิน 2 ล้านบาทที่เธอได้รับ “โม” เปิดเผยว่า เธอและ “บอส” รู้จักกันผ่าน TikTok ตั้งแต่ปี 2564 โดยฝ่ายชายเป็นฝ่ายเข้ามาจีบก่อน และหลังจากที่บอสเรียนจบได้ประมาณ 1 ปี ทั้งคู่ก็ตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน โดยครอบครัวของทั้งสองฝ่ายรับรู้

ในตอนนั้น ทั้งคู่วางแผนอนาคตร่วมกัน ตั้งใจทำงานและสร้างครอบครัว แต่ด้วยภาระที่ “บอส” ต้องทำงานไปด้วย ทำให้ต้องดรอปเรียน  และต้องออกจากงานเพราะมีปัญหาเกี่ยวกับการแอบถ่าย ทำให้ “โม” โกรธจนเกือบเลิก แต่สุดท้ายเธอเลือกให้อภัย เพราะเห็นว่าเขาไม่มีใครช่วยเหลือ

ช่วงที่ “บอส” ตกงาน โมพยายามช่วยเหลือทุกทาง แม้กระทั่งแนะนำให้สมัครงานแดนเซอร์ แต่เขากลับปฏิเสธเพราะไม่ใช่แนวของตัวเอง ต่อมา “บอส” ได้รับโอกาสเข้าไปออดิชั่นเป็นแดนเซอร์ แม้ตอนแรกจะไม่ได้ผ่านการคัดเลือก แต่เนื่องจากมีคนขาด ทำให้เขาได้เป็นตัวสำรอง และในที่สุดก็ได้เป็นแดนเซอร์ตัวจริงในเดือนเมษายน

จากเรื่องจากที่ทำงานเก่าทำให้ “โม” เริ่มมีความระแวง และยิ่งเมื่อ “บอส” เริ่มโกหกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ความสัมพันธ์ก็เริ่มเปลี่ยนไป เขาต้องเดินสายทัวร์ทำให้ไม่มีเวลาให้กันเหมือนเดิม ทั้งคู่แทบไม่ได้เจอหน้ากัน และคุยกันน้อยลง แต่ “โม” ไม่ได้สงสัยว่า “บอส” มีคนอื่น คิดเพียงว่าเป็นเพราะเรื่องเวลาที่ไม่ตรงกัน

 

 

กระทั่ง “โม” พบความผิดปกติในบัญชีธนาคารของ ”บอส” เมื่อทั้งคู่วางแผนกู้เงินซื้อคอนโด และนำสเตทเมนต์มายื่นขอสินเชื่อ “โม” ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีเงินจำนวน 100,000 บาทเข้ามาแบบผิดปกติ เธอจึงถาม “บอส” ว่าเป็นเงินอะไร และได้รับคำตอบว่าเป็นเงินที่ฝ่ายหญิงอีกคนจ้างให้ไปกินเหล้า ซึ่งเธอก็เชื่อในตอนแรก

แต่แล้วก็มี บุคคลที่รู้จักโทรมาบอกว่า เงินแสนบาทนั้นไม่ได้มาจากการจ้างให้กินเหล้า แต่มาจากการจ้างให้ทำอย่างอื่น ซึ่งทำให้ “โม” รู้ความจริงว่า บอสมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงอีกคน หลังจาก “บอส” กลับจากทัวร์ โมได้ตรวจสอบไอแพดของเขา และพบหลักฐานการแอบคุยกับฝ่ายหญิงจริง เมื่อ “บอส” รู้ตัวว่าถูกจับได้ถึงกับตกใจ และพยายามอ้อนวอนให้อยู่ด้วยกันต่อไป พร้อมเสนอให้เงินเดือนละ 50,000 บาท เพื่อให้เธอไม่เลิก

แต่เธอปฏิเสธข้อเสนอนี้ และต้องการให้เขาออกมายอมรับความจริงกับสังคม เธอรู้สึกว่าหากเธอเลือกเงียบและปล่อยให้ “บอส” ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มันไม่ยุติธรรมกับเธอ

ในที่สุด ทั้งสองฝ่ายตกลงกันเรื่องค่าเสียใจที่ 2 ล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้เป็นเงินที่ “บอส” ต้องรับผิดชอบเอง และเป็นการตกลงกันตามกฎหมายภายใต้เงื่อนไขของสัญญาประนีประนอม

 

 

แต่ต่อมา “บอส” กลับออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “โม” เรียกร้องเงินจากฝ่ายหญิง 100% และกล่าวหาว่าหากโมไม่ได้เงิน คลิปหลักฐานอาจหลุดออกมา “โม” ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ และยืนยันว่า เงิน 2 ล้านบาทเป็นค่าเสียใจ ไม่ใช่การรีดทรัพย์ เธอไม่ได้ต้องการเงินจากใคร แต่ต้องการให้บอสออกมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำ

ขณะดำเนินรายการ “ประจักษ์ชัย ไหทองคำ” โพสต์ข้อความว่าจะฟ้อง “โม” เพิ่มเป็น 100 ล้านบาท โดยอ้างว่าทำให้ศิลปินของค่ายเสียหาย อย่างไรก็ตาม “บอส” เชื่อว่า “โม” เป็นคนส่งหลักฐานให้เพจดังโดยยืมมือคนอื่น แต่ “โม” ยืนยันว่าเธอไม่ได้เป็นคนปล่อยหลักฐาน และเธอไม่เคยให้ข้อมูลกับใคร

ขณะเดียวกันเพจ “อีซ้อ” ออกมายืนยันว่า “โมไม่ใช่คนให้ข้อมูล” ทำให้เกิดข้อสงสัยใหม่ว่า หลักฐานหลุดออกมาได้อย่างไร และใครกันแน่ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

หลังจากผ่านดราม่ามาหลายวัน “โม” เผยว่าเธอเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก และขอให้เรื่องนี้จบลง โดยยืนยันว่า เธอจะไม่ให้สัมภาษณ์ที่อื่นอีก และขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย

“โม” ย้ำว่า เธอไม่ได้ต้องการเงินจากใคร และเธอไม่ใช่คนปล่อยหลักฐาน เธอแค่ต้องการความยุติธรรม และอยากให้ทุกฝ่ายออกมายอมรับความจริง

เรื่องนี้ยังคงมีหลายประเด็นที่ต้องติดตาม ไม่ว่าจะเป็น ข้อกล่าวหาเรื่องรีดทรัพย์ การปล่อยหลักฐาน และคดีฟ้องร้องที่เกิดขึ้นจากค่ายไหทองคำ เรื่องนี้ยังไม่จบง่ายๆ และยังต้องรอดูว่า “บอส -โม – ประจักษ์ชัย” จะดำเนินการอย่างไรต่อไป งานนี้เรียกได้ว่าเป็นดราม่าที่ร้อนแรงที่สุดของปี และยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงในเร็ว ๆ นี้!

 

 

ขอบคุณที่มา รายการโหนกระแส

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

 

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube