เปิดใจตัวประกันเหยื่อไอ้คลั่งขอนแก่นหลังถูกจับเชื่อบารมีหลวงพ่อคูณช่วยแคล้วคลาดปลอดภัย
บริเวณจุดเกิดเหตุอีกครั้งที่ร้านชายการช่าง บ้านเลขที่ 500/2 ตำบลในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อสอบสามวินาทีคนร้ายได้เข้ามาภายในร้ายพร้อมกับจับตัวประกัน 1 ราย พร้อมเผยเหตุการณ์ขณะที่ตัดสินใจวิ่งหนีคนร้าย พร้อมเผยภาพกล้องวงจรปิดวิธีนาทีคนร้ายวิ่งเข้ามาในร้านซ่อมจักรยานยนต์เพื่อจับตัวประกัน
นางสุวรรณ์ อายุ 52 ปี ตัวประกัน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุพึ่งกลับมาร้านก็เห็นตำรวจอยู่เต็มถนน จากนั้นไม่นานคนร้ายได้วิ่งเข้ามาที่ร้านพร้อมกับชูระเบิดแล้วบอกว่าอย่าหนี ซึ่งในขณะนั้นคนที่อยู่ภายในร้านพยายามวิ่งหนีออกไปหมดเหลือแค่ตนเองคนเดียวที่หนีไม่ทัน คนร้ายก็ได้เข้ามาดึงเสื้อแล้วก็บอกว่าให้ไปนั่งที่ด้านข้างพร้อมกับบอกว่าห้ามหนีไปไหน โดยไม่ได้มีการทำร้ายหรือล๊อคคอ ซึ่งขณะที่คนร้ายเข้ามานั้นตนเองคิดว่าในมือของคนร้ายนั้นเป็นระเบิดจริงเลยทำอะไรไม่ถูก
“หลังจากที่ถูกจับตัวไว้ตำรวจก็ได้โทรเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของตนเองเพื่อที่จะคุยต่อรองเจรจากับคนร้าย ตำรวจก็ได้บอกให้ตนเองนั้นปิดเสียงลำโพงแล้วแอบคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะหลบหนีโดยวิธีไหน
ซึ่งก็ได้มีการสอบถามว่าตนเองนั้นวิ่งไหวมั้ยตำรวจจะส่งรถบังคับเข้าไปแล้วให้ใช้จังหวะทีเผลอนั้นวิ่งหนี ซึ่งในขณะที่ตนเองกำลังถูกจับตัวอยู่นั้นตนเองก็ได้อธิศฐานกับหลวงพ่อคูณที่ห้อยไว้ตลอด พอถึงเวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ส่งรถหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด
ของตำรวจ EOD ขอนแก่น เอาของเข้ามาให้พร้อมกับบอกว่าให้ผู้ก่อเหตุขยับรถให้เพราะว่ารถติดบังคับออกมาไม่ได้ ตอนแรกตนเองไม่กล้าวิ่งเลยอยู่เฉยๆไปก่อน จนถึงรอบสองตนเองก็ได้รวบรวมความกล้า
และวิ่งหนีออกมาก่อนจะล้มอยู่กลางถนน เพราะตอนนั้นขาไม่มีแรงแล้วโดยไม่รู้ตัวว่าคนร้ายได้วิ่งตามมา รวมถึงเสียงปืนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงใส่ผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้ยินเหมือนกัน แต่ที่รอดมาได้นั้นเพราะตนเองได้ห้อยวัตถุมงคลหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
ซึ่งเป็นเหรียญครบรอบ 100 วัน ที่หลวงพ่อคูณได้มรณภาพ ซึ่งขณะที่ถูกจับเป็นตัวประกันได้นำวัตถุมงคลใส่ไว้ในเสื้อโดยไม่ห้อยออกนอกเสื้อ เพราะกลัวผู้ก่อเหตุจะเห็น”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
