ผบ.ตร.เผยสอบ สันติ ให้การภาคเสธอ้างไม่ได้ลงมือสังหารสามี-ภรรยาท้องแฝด ยังไม่ฟันมีบุคคลอื่นร่วมด้วยหรือไม่อยู่ระหว่างสอบสวน
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมสอบปากคำ นายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน หรือ หยาง อายุ 35 ปีผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆาตกรรมสามี ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ลูกแฝดโดยทิ้งศพไว้ในรถยนต์ที่ไต้หวันเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน
ก่อนที่จะหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา หลังจากตำรวจไต้หวันสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุหลบหนีมาในไทยจึงประสานงานให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งสืบสวนหาตัว จนพบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้รับการประสานติดต่อขอเข้ามอบตัว และนัดพบที่หมู่บ้านอรุโณทัย อำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวน เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การภาคเสธว่า ไม่ได้ลงมือก่อเหตุเอง แต่อ้างว่ามีผู้อื่นร่วมก่อเหตุส่วนสาเหตุตามคำให้การของผู้ต้องหายังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากมีผลกระทบต่อผู้เสียชีวิต จึงยังไม่ขอเปิดเผยและจะสอบสวนผู้ต้องหาต่อ
สำหรับผู้ที่ให้การช่วยเหลือ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กำลังสอบสวนร่วมด้วยว่ามีบุคคลใดให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนีหรือไม่ซึ่งหากพบว่ามีผู้ให้การช่วยเหลือ ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุในไต้หวันจะมีเพิ่มเติมหรือไมา ขณะนี้การสืบสวนยังไปไม่ถึงส่วนผู้ต้องหาจะก่อเหตุคนเดียวได้หรือไม่นั้น ตำรวจก็ยังไม่เชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา ส่วนหลักฐานที่มีขณะนี้ทางการไต้หวันก็ให้ข้อมูลมามากพอสมควรแล้ว จึงขอศาลออกหมายจับได้
โดยหลังจากนี้ก็จะต้องดำเนินคดีผู้ต้องหาความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ตามหาตรา 288 และเป็นความผิดที่เกิดขึ้นระหว่างคนไทย อีกทั้งบิดาของผู้เสียชีวิตก็ได้ร้องขอให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายไทย ซึ่งก็จะต้องรับโทษในไทยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 8 วงเล็บ ก
ไม่ต้องส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่ไต้หวัน โดยหลังจากนี้ก็จะต้องประสานร่วมกับอัยการสูงสุดเพื่อร่วมดำเนินคดี เนื่องจากเป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร และจะขออำนาจศาลอาญาฝากขังในวันพรุ่งนี้
ขณะที่ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า การสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหายังคงยืนยันว่าไม่ได้ลงมือสังหารผู้ตาย แต่ยอมรับว่ารู้เห็นในเหตุการณ์บางส่วนซึ่งทางตำรวจเองยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา ส่วนสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเป็นไปตามข่าวที่เกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตามวันพรุ่งนี้ (18 มิถุนายน) จะนำตัวผู้ต้องหาฝากขังต่อศาลอาญา และจะไม่นำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ด้าน นายอีธาน หลิน ทูตตำรวจไต้หวันประจำประเทศไทย กล่าวว่า คดีนี้เป็นข่าวใหญ่ที่ไต้หวัน และเมื่อประสานมายังตำรวจไทยก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีและรวดเร็ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
