ปรับตามสถานการณ์วัคซีนโลก! “อนุทิน” แจงเหตุผลไทยเข้า Covax ย้ำ ไม่เคยทิ้ง แต่ศึกษามาตลอด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องไทยพิจารณากลับเข้ารับวัคซีนโควิด-19 ผ่านโครงการ Covax ว่า การพิจารณาของไทย ไม่ได้หมายความว่า การที่ไทยไม่ได้เข้าร่วมในปีนี้ถือว่าผิดแผน ผิดพลาด ล้มเหลว แต่ไทยตัดสินใจบนสถานการณ์จริง ที่ปี 2564 ทั่วโลกต้องการวัคซีนมากมายมหาศาล ทางCovax ก็เช่นกัน ต้องประสบกับความยากลำบากในการจัดหา ซึ่งก็ปรากฏเป็นข่าวอยู่เนืองๆ ปัจจุบันนี้ ค่าเฉลี่ยการกระจายวัคซีนให้ชาติสมาชิกอยู่ที่ประเทศละ 1 ล้านโดส และในความเป็นจริงบางชาติได้รับหลักล้าน แต่บางชาติได้รับหลักหมื่น โครงการCovax สำหรับปี 2564 ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง ดังนั้น ไทยจึงไม่ได้หวังพึ่งจากโครงการนี้เป็นหลัก แต่ได้เข้าไปจัดหากับผู้ผลิตโดยตรง
ซึ่งหากมองในมุมของประเทศไทยที่มีการซื้อวัคซีนตรงกับบริษัทผู้ผลิตที่เราตกลงกันไว้ตั้งแต่ เดือนกันยายน 2563 ทำให้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 จนถึงสิ้นเดือน กรกฎาคม 2564 ไทยเรามีวัคซีนรวมสะสมทั้งสิ้นประมาณ 27 ล้านโดส แบ่งเป็นแอสตราเซเนกา ราว 12 ล้านโดส และซิโนแวคอีก 15 ล้านโดส และยังมีส่วนที่ได้รับการบริจาคราว 3.5 ล้านโดสเป็นวัคซีนแอสตราเซเนกา 1 ล้านโดสที่เราได้รับจากประเทศญี่ปุ่น, วัคซีนซิโนแวค 1 ล้านโดสจากประเทศจีน และวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสที่จะเข้ามาปลายเดือนนี้
“ย้อนกลับไปตอนที่ไทยมีแผนวัคซีน เราไม่ได้เลือกCovax เป็นแผนหลัก เพราะตอนนั้นเราไม่อยากวางเงินซื้อ ซึ่งเรารู้ดีว่าหลังจากนั้น เราจะกำหนดอะไรไม่ได้ ทางไทยจึงกันงบไว้จัดซื้อจัดหากับผู้ผลิตโดยตรง ที่การพูดคุยหารือยังเป็นไปได้มากกว่า”
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันของโครงการCovax มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ไทยและโคแวกซ์ได้หารือกันมาตลอด มีคณะทำงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้โดยเฉพาะ พบว่า ในปี 2565 การกักตุนวัคซีนจะน้อยลง โคแวกซ์ จะมีวัคซีนเข้ามามากขึ้น บริหารจัดการง่ายขึ้น ชาติสมาชิกจะมีความชัดเจนเรื่องการได้รับวัคซีน ไทยจึงเข้าร่วม เราตัดสินใจบนสถานการณ์จริง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news