Home
|
ข่าว

อังกฤษ ต่อเวลาเฉือน เดนมาร์ก 2-1 ลิ่วชิงชนอิตาลี

Featured Image
อังกฤษ ผ่านเข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศ ยูโร 2020 ไปเจออิตาลีสำเร็จ หลังเอาชนะ เดนมาร์ก ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ไป 2-1

ศึกฟุตบอล ยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ สเตเดียม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ อันดับ 4 ของโลก ดวลเดือดกับ “โคนม” ทีมชาติเดนมาร์ก อันดับ 10 ของโลก

อังกฤษ เกมนี้ยังคงยึดผู้เล่นชุดหลักจากเกมถล่มยูเครน 4-0 โดยเปลี่ยน บูกาโย้ ซาก้า ลงสนามแทน เจดอน ซานโช โดยที่อีกสองแนวรุกยังเป็น ราฮีม สเตอร์ลิง และ แฮรรี เคน

ทางฝั่ง เดนมาร์ก มาในชุดแกร่งเช่นกัน ซิมง เคียร์, อันเดรียส คริสเตนเซน และ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด ยืนเสามกองหลัง แดนกลางนำทัพโดย โธมัส เดลานีย์ ประสานงานกับ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ แนวรุกใช้ มาร์ติน เบรธเวต, มิคเคล ดัมสการ์ด และ แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก

ผลปรากฏว่า ครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 30 เดนมาร์ก ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะได้ฟรีคิกระยะค่อนข้างไกล แต่ มิคเคล ดัมส์การ์ด วิ่งมาซัดด้วยขวา บอลพุ่งมุดเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสวยงาม

นาทีที่ 39 อังกฤษ ตามตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะที่ แฮร์รี เคน จ่ายบอลทะลุเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ บูกาโย ซากา หลุดไปสุดเส้นหลังก่อนเปิดเรียดเข้ากลาง ซิมง เคียร์ กองหลังเดนมาร์ก สกัดบอลเข้าประตูตัวเองไป

จบครึ่งแรก ทีมชาติอังกฤษ เสมอ ทีมชาติเดนมาร์ก อยู่ 1-1

ครึ่งหลัง อังกฤษ เกือบได้ประตูนำนาที 54 จากลูกฟรีคิกฝั่งขวา เมสัน เมาท์ เปิดเข้ามาถึง แฮร์รี แม็คไกวร์ ได้โขกเต็ม ๆ บอลกำลังจะเสียบเสาสองแต่ แคสเปอร์ ชไมเคิล พุ่งปัดไว้ได้

จบ 90 นาทีไม่มีการทำประตูเพิ่ม ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

ในช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 94 อังกฤษ เกือบได้เฮ เมื่อ แฮร์รี เคน เบียดจนได้หลุดไปยิงในเขตโทษ แต่ แคสเปอร์ ชไมเคิล ยังเซฟออกไปได้

จากนั้นนาทีที่ 104 อังกฤษ ได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง โดน โจอาคิม เมห์เล ทำฟาวล์ร่วงในเขตโทษ และเป็น แฮร์รี เคน รับหน้าที่สังหารจังหวะแรกไปติดเซฟ แคสเปอร์ ชไมเคิล แต่ก็ตามซ้ำอีกทีเข้าไปตุงตาข่าย พา อังกฤษ ขึ้นนำ 2-1

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ทีมชาติอังกฤษ ชนะ ทีมชาติเดนมาร์ก 2-1 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2020 ไปเจอกับ ทีมชาติอิตาลี

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube