fbpx
Home
|
ภูมิภาค

สระแก้วพบคนไทยมาจากกัมพูชาติดเชื้อ26ราย

Featured Image
สระแก้ว พบผู้ป่วยในจังหวัด 1 ราย ส่วนคนไทยเดินทางจากกัมพูชาเข้ามาติดเชื้อ 26 ราย

นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้ (4 มิถุนายน 2564) จังหวัดสระแก้วมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัด 1 ราย ติดเชื้อจากจังหวัดอื่น 6 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศเข้ามา 26 ราย รวมผู้ติดเชื้อทั้งหมด 33 ราย มาจากการระบบการเฝ้าระวังคัดกรองคนไทยที่เดินทางข้ามแดนที่ด่านพรมแดนคลองลึก การเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงสูงที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันในศูนย์กักกันโรคและระบบเฝ้าระวังของโรงพยาบาล เป็นเพศชาย 12 ราย หญิง 21 ราย อายุระหว่าง 21 – 41 ปี เป็นผู้ป่วยตรวจพบเชื้อที่ราชอาณาจักรกัมพูชาและส่งตัวมาเพื่อรักษาต่อ จำนวน 10 ราย ชาวไทยเดินทางข้ามจากราชอาณาจักรกัมพูชาผ่านด่านคลองลึก จำนวน 16 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงต่างจังหวัด จำนวน 7 ราย อำเภอที่พบผู้ติดเชื้อในจังหวัด ได้แก่ อำเภอเมืองสระแก้ว 1 ราย และอำเภออรัญประเทศ 6 ราย

ทำให้การระบาดระลอกใหม่เมษายน ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน ถึง 3 มิถุนายน 2564 จังหวัดสระแก้วมีผู้ป่วยสะสม 506 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 443 ราย เข้ารักษาตัวอยู่ในสถานพยาบาลของรัฐ เอกชน และโรงพยาบาลสนามรวมทั้งสิ้น 307 ราย รักษาหายแล้ว 637 ราย  มีอาการปอดอักเสบรุนแรง 8 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.61 ปอดอักเสบ 39 ราย ร้อยละ 12.7%  อาการเล็กน้อย ร้อยละ 12.38 และไม่มีอาการ 222 ราย ร้อยละ 71.31

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า จากสถานการณ์การพบเชื้อในจังหวัดที่มีแนวโน้มลดลงแต่จำนวนคนไทยเดินทางข้ามแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านติดเชื้อเพิ่มขึ้น จึงต้องบริหารจัดการเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพและเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต

ข้อมูล ณ วันที่ 3 มิถุนายน 2564 จังหวัดสระแก้วมีเตียงทั้งหมด 680 เตียง กำลังรักษา 307 เตียง หรือคิดเป็นร้อยละ 45.15 ยังคงเหลือเตียงไว้รองรับการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งในโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน Cohort Ward และโรงพยาบาลสนาม (4 แห่ง) จำนวน 366 เตียง ในขณะที่ศูนย์กักตัวหรือ LQ สำหรับคนไทยที่เดินทางข้ามแดนทั้งหมด 595 เตียง ตอนนี้เหลือแค่ 115 เตียงเท่านั้น

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube