นรข.นครพนม บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจยึดกัญชา 350 แท่ง/กก. พร้อมผู้ต้องหา 2 คน
พล.ร.ต.จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผบ.นรข., น.อ.ฤทธิ์ นาทวงศ์ ผบ.นรข.เขตนครพนม, พ.ต.อ.ชนะไชย เกษมวงศ์ ผกก.10 บก.รน., พ.ต.ท.อัศรายุทธ ทองลอง สว.ส.รน.1 กก.10 บก.รน. ร่วมแถลงว่า
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 น.อ.ฤทธิ์ นาทวงศ์ ผบ.นรข.เขตนครพนม ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด เข้าสู่พื้นที่ตอนในราชอาณาจักร บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านเหล่าหนาด ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงมอบหมายให้ น.ท.วรภัทร แสงสุวรรณ ผู้ช่วยหัวหน้ายุทธการและงานข่าว นรข. และ รักษาการ หน.สน.เรือ นครพนม ตรวจสอบและได้วางแผน ร่วมกับ น.ท.บุญเชิด กุลอำภา หน.สน.เรือบ้านแพง พร้อมสั่งการให้ชุดลาดตระเวนทางบก เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่
จนกระทั่งวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 ชุดลาดตระเวนทางบกตรวจพบเรือต้องสงสัยแล่นผ่านข้ามมาและจอดริมฝั่งแม่น้ำโขงของประเทศไทย บ.เหล่าหนาด ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม มีชายฉกรรจ์ ประมาณ 6-8 นาย กำลังขนวัตถุจากเรือขึ้นมากองไว้บนตลิ่ง เวลาต่อมาได้มีรถยนต์ต้องสงสัยเข้ามาจอดและถอยหลังเข้าไปยังบริเวณจุดที่วัตถุต้องสงสัยกองอยู่ กลุ่มชายฯ ได้ลำเลียงวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว เพื่อขึ้นรถเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน จึงทำการเข้าแสดงตน กลุ่มชายฉกรรจ์ได้อาศัยความมืดหลบหนีเข้าป่า
เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนจึงทำการเข้าตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว พบชาย จำนวน 2 ราย ได้ทำการควบคุมตัวและตรวจค้น ทราบชื่อภายหลังคือ นายอุทัย อายุ 43 ปี ชาว จ.สุรินทร์ (นั่งข้างคนขับ) และนายอุดม อายุ 34 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ (คนขับ) และโทรศัพท์ 2 เครื่อง จากการสอบถามได้รับสารภาพว่าได้รับการจ้างวานให้มาขนยาเสพติด และยังไม่ทราบว่าจะนำไปส่งที่ไหน โดยจะมีผู้นำพา และยังไม่ทราบว่า ได้ค่าจ้างเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมผู้ต้องหา และทำการตรวจสอบกระสอบ สีดำ พบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) และรถยนต์ ยี่ห้อฟอร์ด รุ่น แรนเจอร์ สีดำ ทะเบียน 2 ฒศ 4804 กรุงเทพมหานคร จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางนำของกลางมาตรวจสอบที่ สน.เรือนครพนม และได้ทำบันทึกการตรวจยึด พร้อมนำของกล่งและผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
