ในคราวที่แล้วที่ทางทีม INN ได้ให้ทุกคนมาลองเช็คอาการที่เข้าข่าย FOMO หรือ Fear of missing out กันไปแล้วว่าตัวเองอยู่ในภาวะ FOMO กันหรือเปล่า วันนี้เรามีอีกหนึ่งภาวะที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน นั่นก็คือภาวะ JOMO หรือ Joy of missing out
ต้องบอกก่อนว่าคนที่มีอาการ FOMO นั้นมีความแตกต่างกับภาวะ JOMOกันอย่างคนล่ะขั้วเลยล่ะทุกคน แต่ถ้าใครอยากรู้ว่าภาวะ FOMO นั้นคืออะไรสามารถไปหาตอบได้ที่ จะทำอย่างไรดี ไม่อยากตกอยู่ภาวะ FOMO แล้ว!
กลุ่มคนที่มีภาวะ JOMOหรือ Joy of missing out นั้นจะเป็นกลุ่มคนที่มีความสุขกับการที่ไม่สนใจสังคมออนไลน์ ไม่ตามกระแส ไม่มีความยึดติดหรือสนใจสิ่งของที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ข่าวสารหรืออะไรที่เป็นกระแสที่อินเทรนด์ก็ตาม เกิดความรู้สึกเบื่อๆกับการใช้ Social Network มีความเครียดที่ต้องติดตามข่าวใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา บางคนถึงกับตัดขาดสังคมโลกออนไลน์เลยก็ว่าได้
ต้องบอกก่อนว่ากลุ่มคนที่มีภาวะ JOMOนั้นเกิดขึ้นในทั่วโลก กลุ่มคนเหล่านี้มักจะมีคำถามที่คอยถามตัวเองอยู่เสมอว่าการใช้โทรศัพท์มือถือหรือการอยู่กับโลกออนไลน์ในแต่ล่ะวันนั้นส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันหรือใช้มากเกินความจำเป็นหรือไม่ ซึ่งคนกลุ่มนี้คิดว่าการอยู่กับสิ่งพวกนั้นมันใช้เวลามากเกินไปจนรู้สึกเอียน ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงหันมาเริ่มใช้ Social Media กันน้อยลง ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่า JOMO เป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่เห็นได้อย่างชัดเจน เช่นในสหรัฐอเมริกานั้นมีคนใช้ Facebook น้อยลง ส่วนประเทศไทยของเรานั้นมีคนกลุ่ม JOMOอยู่เช่นกัน จากงานวิจัยคนกลุ่มนี้มีประมาณ 5.7 ล้านคนหรือคิดเป็น 10% ของคนไทย โดยคนกลุ่มที่มีแนวโน้มเป็น “JOMO” มากที่สุด คือคนรุ่น Gen X นั่นเอง
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือคนกลุ่ม JOMOนั้นเน้นการใช้ชีวิตในโลกแห่งความจริงมากกว่าอยู่ในโลกออนไลน์ เพราะความสุขของคนกลุ่มนี้คือการที่ไม่ต้องรับรู้เรื่องใน Social Media คอยให้ความสำคัญและให้เวลากับคนในครอบครัวและคนที่อยู่รอบข้าง คอยพบปะพูดคุยแบบ Face to Face มากกว่าการ Chat ชอบทำกิจกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว เล่นกีฬา รดน้ำต้นไม้ นัดHangoutกับเพื่อน ไปทำสปา เป็นต้น นี่แหละคือความสุขของ FOMO
เป็นอย่างไรกันบ้างล่ะทุกคนกับภาวะ JOMOที่ทางทีม INN ได้นำมาฝาก เห็นไหมว่าภาวะ FOMO กับ JOMOนั้นแตกต่างกันมากจริงๆ ว่าแต่มีใครที่อยู่ใน 2 ภาวะแบบนี้กันบ้าง ลองมา comment บอกกันได้เลยน้า และสำหรับใครที่ไม่อยากพลาดทุกเรื่องอินเทรนด์ สามารถติดตาม ข่าวหรือ ไลฟ์สไตล์ต่างๆได้ที่ INN Lifestyle
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
ขอขอบคุณข้อมูล
fillgoods
psychologytoday
marketingoops
BBC
