fbpx
Home
|
ภูมิภาค

ผู้ติดเชื้อโควิดตลาดบางวังปากพนังพุ่ง

Featured Image
คลัสเตอร์ตลาดบางวังปากพนังผู้ป่วยโควิดพุ่งแตะ 800 รายแล้วคกก.คุมโรคสั่งปิดตลาดไม่มีกำหนด

สภาพตลาดบางวังเทศบาลเมืองปากพนัง ที่ตั้งอยู่ในตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก เขตเทศบาลเมืองปากพนัง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นตลาดที่ปรากฎคลัสเตอร์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดอย่างรุนแรงและรวดเร็ว โดยจนถึงวันนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 800 รายแล้ว นับแต่การพบคลัสเตอร์นี้ครั้งแรกจนถึงวันนี้เพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์เท่านั้น ขณะที่ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอยู่ในข่ายที่ต้องตรวจหาเชื้ออีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้ถูกทยอยตรวจเชื้ออย่างต่อเนื่อง

 

สำหรับลักษณะทางกายภาพของตลาดบางวังก่อนหน้านี้ นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจพื้นที่พบว่าตลาดอยู่ในสภาพอับ มีปัญหาการระบายอากาศ อับชื้นมีกลิ่นไม่พึงประสงค์จากการเน่าเสียของเศษสินค้าอาหารสด สัตว์พาหะโรคเช่นหนู แมลง ปัญหาการระบายน้ำ การจัดพื้นที่ไม่ถูกสุขอนามัยตลาดสด ไม่ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทำให้พื้นที่ถูกพบเป็นลักษณะที่เรียกว่า “รังโรค” สภาพปัญหาถูกนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดนครศรีธรรมราช

 

และล่าสุดนั้นนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรค ได้เรียกประชุมคณะกรรมการพิจารณาข้อเสนอ ในที่สุดได้มีมติให้ปิดตลาดบางวังเทศบาลเมืองปากพนังเป็นการชั่วคราวไม่มีกำหนด โดยให้เทศบาลเมืองปากพนังไปหาพื้นที่สำรองให้พ่อค้าแม่ค้าผู้ประกอบการได้ดำเนินการค้าขายเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการแก้ไขปัญหาหาสภาพสุขอนามัยของพื้นที่อย่างถูกต้อง

 

อย่างไรก็ตามในกรณีนี้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้ยืนยันว่าคำสั่งนั้นแม้จะมีคำว่าเป็นการชั่วคราวแต่ไม่มีกำหนด แต่นั่นคตือการปิดอย่างถาวรในสภาพตลาดที่ยังไม่ได้มีการแก้ไข หลังจากนี้อาจต้องดำเนินการรื้อแล้วสร้างขึ้นใหม่ให้ถูกต้องตามสุขอนามัยตลาดสด หลังจากนั้นเจ้าของคือเทศบาลเมืองปากพนังจะต้องแจ้งให้สำนักงานสาธารณสุข และเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบจึงจะอนุญาตให้เปิดใหม่ได้อีกครั้ง

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube