สระแก้วผู้ป่วยโควิดยืนยัน 214 ราย เสียชีวิต 1 ราย คลัสเตอร์ใหม่ตลาดกลางศาลาลำดวน แม่ค้าผักติดเชื้อ 9 ราย
นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้ (18 สิงหาคม 64) มีผู้ป่วยโควิดยืนยันใหม่ 214 ราย แยกเป็นติดเชื้อในจังหวัด 154 รายและจากจังหวัดอื่น 60 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 2 ราย รวมทั้งสิ้น 216 ราย เสียชีวิต 1 ราย (เป็นรายที่ 35 ของจังหวัดสระแก้ว) ผู้ป่วยทั้งหมดมาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล การตรวจเชิงรุก การเฝ้าระวังในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใน LQ ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ผู้ติดเชื้อในจังหวัด 154 รายที่ อำเภออรัญประเทศ 108 ราย อำเภอตาพระยา 17 ราย อำเภอโคกสูง 13 ราย อำเภอเมืองสระแก้ว 13 ราย อำเภอวัฒนานคร 2 ราย และอำเภอคลองหาด 1 ราย
ทำให้การระบาดระลอกเมษายน (ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนถึง 17 สิงหาคม 2564) จังหวัดสระแก้วมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 7,227 ราย แยกเป็นติดเชื้อในจังหวัดและจากจังหวัดอื่น 6,291 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 936 ราย ผู้ต้องขังใหม่ 5 ราย รักษาหาย 5,532 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 1,884 ราย เสียชีวิตสะสม 35 ราย
ภาพรวมของจังหวัดสระแก้วในวันนี้จำนวนผู้ป่วยกว่าครึ่งอยู่ที่อำเภออรัญประเทศ 108 ราย ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ที่ค้าขายอยู่ในตลาดโรงเกลือทั้งชาวไทยและกัมพูชา 47 ราย และผู้สัมผัสเชื้อจากผู้ป่วยยืนยันที่ค้าขายในตลาดโรงเกลือ 30 ราย รวมทั้งหมด 77 ราย ในขณะที่ยังคงพบผู้ติดเชื้อจากพื้นที่เสี่ยงอรัญประเทศ 14 รายและติดเชื้อจากผู้ป่วยยืนยัน 17 ราย ทั้งร่วมบ้านแม่ค้าตลาดวังปลาตอง ติดจากผู้ป่วยยืนยันจากอำเภอตาพระยา และครูที่สัมผัสเชื้อจากกำนันตำบลหนองหมากฝ้าย ส่วนที่อำเภอตาพระยาส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อจากผู้สัมผัสร่วมบ้านของผู้ป่วย ทั้งกรณีคนขายลอตเตอรี่ ,ครอบครัวของสมาชิกสภา อบจ. , ญาติของภรรยาเจ้าของร้านซ่อมรถบ้านหนองเสม็ด ,ร้านซ่อมรถบ้านทัพเซียม , จากผู้ป่วยยืนยันจังหวัดสมุทรปราการและในพื้นที่
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ส่วนที่อำเภอเมืองสระแก้ว พบคลัสเตอร์ใหม่ที่ตลาดกลางสินค้าเกษตร ตำบลศาลาลำดวน หลังจากเจ้าของร้านขายผักติดเชื้อมาแล้วกระจายไปยังแม่ค้าผักในตลาดและครอบครัวไป 6 ราย รวมแล้วตอนนี้มีผู้ติดเชื้อไป 9 ราย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
