fbpx
Home
|
ภูมิภาค

จับยาไอซ์ลอตใหญ่หนัก1ตันมูลค่ากว่าพันล้าน

Featured Image
จนท.ยะลา แถลง จับยาไอซ์ลอตใหญ่หนัก 1 ตัน มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท

ที่ ศูนย์ปฏิบัติการสํานักงานตํารวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9/ผบ.ศปก.ตร.สน. พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9/รอง ผบ.ศปก.ตร.สน. พล.ต.ต.อรรถวุฒิ อ่อนทรัพย์ ผบก.สส.จชต. พ.ต.อ.พรชัย สุวรรณวงศ์ ผกก.สส.2 บก.สส.จชต. พร้อม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ตามนโยบายรัฐบาลให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยให้ถือเป็นวาระ แห่งชาติ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแหล่งแพร่ระบาด เป็นจุดพักยาและเป็นเส้นทางลำเลียงไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและ กอ.รมน.ภาค 4 ได้ระดมสรรพกำลังเพื่อขับเคลื่อนนโยบายในการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง และ โดยเมื่อวันที่ 13 ส.ค.64 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ ปปส.ภายใต้การอำนวยการของ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 , พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 , พล.ต.ท.มนตรียิ้มแย้ม ผบช.ปส., พล.ต.ท.ดำรัส วิริยะกุล ผู้ทรงคุณวุฒิ พิเศษ ตำรวจ รรท.รอง ผบช.ภ.9 ได้ร่วมกันจับกุม 1.นายอับดุลรอมัน หรือมัง เจ๊ะแล๊ะ อายุ 40 ปี ที่อยู่ 139/52 ม.5 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส (ผู้ต้องหาที่ 1) 2.นายยาฮารี หรือยี เจ๊ะฮะ อายุ 33 ปี ที่อยู่ 11/1 ม.1 ต.เอราวัณ อ.แว้ง จ.นราธิวาส (ผู้ต้องหาที่ 2) 3.นายซุลกิฟลี เจ๊ะเง๊าะ อายุ 34 ปี ที่อยู่ 245/4 ม.2 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส (ผู้ต้องหาที่ 3) 4.นายกูอาฟิส ต่วนสะมะแอ อายุ 25 ปี ที่อยู่ 345/1 ม.1 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส (ผู้ต้องหาที่ 4) และ 5.นายอาดินนันท์ เจ๊ะมิ อายุ 25 ปี ที่อยู่ 35 ม.3 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส (ผู้ต้องหาที่ 5) พร้อมด้วยของกลาง 1.ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม 2.รถยนต์บรรทุกสิบล้อ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นเดก้า หมายเลขทะเบียน 71-1274 เพชรบุรี จำนวน 1 คัน 3.รถยนต์กระบะคอก ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 – ฒฌ 9363 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน 4.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน บท – 8562 ปัตตานี จำนวน 1 คัน 5.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 7 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย เหตุเกิดที่ ริมถนนสายเอเชีย (บริเวณหน้าบริษัทอนันต์มอเตอร์เซลส์)ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 13 ส.ค.64 เวลาประมาณ 02.39 น.(จุดเกิดเหตุ ที่ 1) และบริเวณภายในปั้มน้ำมัน ปตท.ริมถนนสายเอเชีย ม.2 ต.นาหม่อม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 13 ส.ค.64 เวลาประมาณ 02.40 น.(จุดเกิดเหตุที่ 2)และบริเวณข้างประตูน้ำ ริมถนนเลียบคลองมูโน๊ะ ม.5 ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

พฤติการณ์ในการจับกุม สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.จชต. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกับเครือข่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดชนิดยาบ้า และไอซ์ จากพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง เพื่อส่งจำหน่ายให้กับเครือข่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้พร้อมของกลางยาเสพติดชนิดยาบ้าจำนวน 2,018,000 เม็ด เหตุเกิดที่ด่านตรวจเกาะหม้อแกง ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังจากนั้น ได้ร่วมกันทำการสืบสวนขยายผลเพื่อทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติดเครือข่ายดังกล่าวและสามารถจับกุมบุคคลในเครือข่ายมาโดยต่อเนื่อง ต่อมาก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ ร่วมกันสืบสวนทราบว่า มีนักค้ายาเสพติดเครือข่ายดังกล่าวซึ่งเป็นคนพื้นที่ จ.นราธิวาส ได้ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดชนิดไอซ์จากพื้นที่ภาคกลาง เพื่อส่งให้เครือในพื้นที่ จ.นราธิวาส และประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้ร่วมประชุมวางแผนติดตามจับกุม กระทั่งต่อมาในวันที่ 13 ส.ค.64 เวลาประมาณ 02.30 น. สามารถติดตามจับกุม ตัวผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ได้พร้อมของกลางไอซ์ จำนวน 1,000 กิโลกรัม (มูลค่า 1,000 ล้านบาท)ในขณะลักลอบ ลำเลียงโดยซุกซ่อนมากับรถบรรทุกสิบล้อของกลาง ได้ในพื้นที่ ต.คอหงส์อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากนั้นได้มีการขยายผลการสืบสวนเพื่อจับกุมเครือข่ายที่ร่วมขบวนการ ซึ่งรอรับยาเสพติดของกลางดังกล่าวในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และสามารถทำการจับกุมเครือข่ายได้เพิ่มอีก จำนวน 3 คน (ผู้ต้องหาที่ 3 – 5) ในการนี้ได้ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดเพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 จำนวน 11 รายการ มูลค่าประมาณ 8,000,000 บาท และทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนขยายผลติดตามยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฏหมายกับเครือข่ายที่ร่วมกระทำผิดและยังไม่ถูกจับกุมต่อไป

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube