fbpx
Home
|
ภูมิภาค

สระแก้วติดโควิดอีก87รายคลัสเตอร์ใหม่ลูกจ้างกัมพูชา

Featured Image
จังหวัดสระแก้ว ผู้ป่วยโควิดยืนยัน 87 ราย พบคลัสเตอร์ใหม่ในกลุ่มลูกจ้างชาวกัมพูชา อำเภอวังน้ำเย็น 9 ราย

นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้ (13 สิงหาคม 64) มีผู้ป่วยยืนยันใหม่ 87 ราย แยกเป็นติดเชื้อในจังหวัด 41 รายและจากจังหวัดอื่น 46 ราย ผู้ป่วยทั้งหมดมาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล การตรวจเชิงรุก การเฝ้าระวังในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใน LQ และผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ผู้ติดเชื้อในจังหวัด 41 รายที่อำเภอคลองหาด 12 ราย อำเภออรัญประเทศ 9 ราย อำเภอวังน้ำเย็น 9 ราย อำเภอเมืองสระแก้ว 7 ราย อำเภอวัฒนานคร 2 ราย อำเภอโคกสูง 1 ราย และอำเภอวังสมบูรณ์ 1 ราย ทำให้การระบาดระลอกเมษายน (ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนถึง 12 สิงหาคม 2564) จังหวัดสระแก้วมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 5,995 ราย แยกเป็นติดเชื้อในจังหวัดและจากจังหวัดอื่น 5,068 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 927 ราย ผู้ต้องขังใหม่ 5 ราย รักษาหาย 4,570 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 1,842 ราย อาการหนักใส่เครื่องช่วยหายใจ 4 ราย เสียชีวิตสะสม 28 ราย

ภาพรวมข้อมูลผู้ป่วยยืนยันในวันนี้พบคลัสเตอร์ใหม่เป็นการติดเชื้อในกลุ่มลูกจ้างชาวกัมพูชาที่ อำเภอวังน้ำเย็น จำนวน 9 รายเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่ตรวจพบเชื้อจากทั้งหมด 87 ราย ที่เชื่อมโยงจากผู้ป่วยชาวกัมพูชาก่อนหน้านี้

ทั้งนี้เมื่อวาน (12 ส.ค.64) โรงพยาบาลวังน้ำเย็นได้ตรวจเชิงรุกไปอีก 211 ราย อยู่ระหว่างรอผล ส่วนในวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.64) จะออกตรวจเชิงรุกที่วัดเขาป่าแก้ว ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ในวันนี้แต่ละอำเภอส่วนใหญ่ยังคงเป็นการติดเชื้อร่วมบ้านกับผู้ป่วยยืนยันในคลัสเตอร์ก่อนหน้านี้ ได้แก่ อำเภอคลองหาด พบครอบครัวของพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง สาขาวังน้ำเย็น ติดเชื้ออีก 3 ราย ทำให้คลัสเตอร์นี้มีผู้ติดเชื้อไปแล้ว 30 ราย แล้วยังพบร่วมบ้านของพนักงานขายของออนไลน์ที่ไปรับของที่ตลาดอินโดจีน 4 ราย และร่วมบ้านของชาย 66 ปีที่ติดเชื้อหลังจากเดินทางกลับจากไปฉีดวัคซีนที่พื้นที่เสี่ยงจังหวัดนนทบุรีกลับมาแล้วมีอาการจึงไปตรวจพบเชื้อ มีผู้สัมผัสในครอบครัว 3 ราย

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube