ภาคธุรกิจพัทยาน้อบรับคำสังรัฐทุกธุรกิจต้องประคองตัวเอง อยากให้ภาครัฐลงมาดูแลอย่างจริงจัง
ภายหลังจากข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 28 ) ในข้อ 2 การห้ามออกนอกเคหสถาน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้นตามข้อ 4 ห้ามบุคคลใดในเขตพื้นที่ ช่วงเวลา 21.00 – 04.00 น. สำหรับของการบังคับใช้ประกาศเคอร์ฟิว” หรือ ห้ามออกจากบ้าน/เคหะสถาน และ “มาตรการล็อกดาวน์” ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และอีก 12 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ กรุงเทพ ฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี อยุธยา และจังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา
นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า หลังจากที่มีคำสั่งมาตรการล็อกดาวน์ ภาคธุรกิจก็ยอมรับและปฎิบัติตามที่ภาครัฐสั่ง เนื่องจากสถานการ์ณมีการแพร่ระบาดเพิ่มสูงขึ้น มาตรการล็อกดาวน์ 14 วันหลังจากนี้ภาคธุรกิจต้องอดทน และประคองธุรกิจต่อไป หลังจาก 14 วันภาครัฐมีการเยียวยาให้กับภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการและอยากให้ลงมาช่วยเหลืออย่างจริงจัง ภาคธุรกิจได้รับผลกระทบพอสมควร และเจ็บแบบซ้ำๆก็อาจจะส่งผลให้ธุรกิจเดินหน้าไปต่ออย่างลำบาก ภาคธุรกิจก็อยากให้ภาครัฐมีการตรวจเชิงรุก เพื่อที่จะคัดแยกผู้ติดเชื้อและนำตัวไปรักษา
ส่วนโครงการเปิดเมืองในวันที่ 1 กันยายน 2564 นี้ ภาคธุรกิจต้องรอดูสถานการณ์ถ้ายังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ภาคธุรกิจก็อาจจะเลื่อนเปิดเมือง ซึ่งภาคธุรกิจก็ได้มีการทำแผนทำ SOP และติดต่อประสานงานกับทุกภาคส่วนเพื่อรอทางรัฐบาลอนุมัติให้เปิดเมืองภาคธุรกิจก็จะสามารถนำแผนขึ้นมาใช้ได้ทันที ภาคธุรกิจได้ทำแผน SOP เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดชลบุรี ถ้าผ่านก็จะนำไปเสนอต่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อให้นำเสนอต่อ ศคบ. ใหญ่ ก่อนที่จะรอคำสั่งเปิดเมืองพัทยา การเปิดเมืองในช่วงแรกภาคธุรกิจมองว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเมืองพัทยาไม่มากนัก หลังจากเดือนตุลาคมก็จะมีการเปิดเมืองแบบจริงจังจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตามลำดับ ตนก็อยากเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนให้ผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
