Home
|
อาชญากรรม

“บิ๊กต่าย” ยันไม่นิ่งนอนใจ เรือนํ้ามันเถื่อนหาย 3 ลํา

Featured Image

 

 

 

 

ผบ.ตร. ยืนยันไม่นิ่งนอนใจ ปมเรือน้ำมันเถือนของกลางในคดีหาย 3 ลํา หากพบ ตร. เกี่ยวข้องเอาผิดอาญาและวินัย

 

 

 

 

วันนี้(14 มิ.ย. 67) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนกว่าสามแสนลิตร ซึ่งเป็นของกลางในคดี จํานวน 3 ลําหายไปจากการควบคุมของตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า กรณีที่มีรายงานว่าเรือของกลางดังกล่าวหลบหนีไปยังฝั่งประเทศกัมพูชาแล้วนั้น

 

ขณะนี้ได้ประสานทางการประเทศกัมพูชาแล้วให้ช่วยเหลือในการติดตามเรือต้องสงสัยดังกล่าว ขณะเดียวกันได้สั่งให้ทุกหน่วยเร่งสืบสวนหาเส้นทางหลบหนีในประเทศควบคู่กัน ส่วนกรณีที่เรือน้ำมันเถื่อนดังกล่าวเข้าออกน่านน้ำของประเทศกัมพูชาโดยไม่ผ่านการตรวจสอบหรือไม่นั้น เป็นสิ่งที่กระทำไม่ได้อยู่แล้ว ขณะนี้ยังต้องรอข้อมูลการสืบสวนให้ทราบแน่ชัดก่อนว่าออกจากน่านน้ำไทยไปจริงหรือไม่

 

ในส่วนการสอบสวนดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้อง หากพบว่ามีเต้าหน้าที่ตำรวจนายใดเข้าไปรู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินคดีทั้งอาญาและเอาผิดทางวินัย และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรตำรวจหรือไม่นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า อาจเป็นความคิดของหลายคนที่มองว่าตำรวจอาจจะเข้าไปเกี่ยวข้อง

 

ซึ่งเรื่องนี้ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนเรื่องการกู้ภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจขอให้ผลงานเป็นตัวชี้วัด ซึ่งหากตํารวจนายใดยังมีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์อยู่ ก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาสักพักหนึ่ง

 

ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวให้สัญญาด้วยว่า ขณะที่ตัวเองดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นโยบายของตำรวจคือทำเพื่อพี่น้องประชาชนและพร้อมรับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กวาดล้างอาชญากรรมเรื่องต่างๆ อย่างจริงจังให้เกิดผลโดยเร็วที่สุดภายใน 1 – 2 เดือนนี้

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube