fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ไทยพบฝีดาษลิงรายที่ 3 เป็นชาวเยอรมัน

Featured Image
ไทยพบผู้ป่วยยืนยัน “ฝีดาษลิง” รายที่ 3 ชายชาวเยอรมัน เดินทางเข้าไทย 18 ก.ค. เชื่อติดมาจากต่างประเทศ เร่งติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด

 

 

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยันฝีดาษวานรหรือฝีดาษลิง รายที่ 3 เป็นชายชาวเยอรมัน อายุ 25 ปี เดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2565 เพื่อมาท่องเที่ยวที่จ.ภูเก็ต ผลการสอบสวนโรคเบื้องต้น เชื่อว่าติดเชื้อก่อนเดินทางเข้ามาประเทศไทย อยู่ระหว่างการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด และจัดทำไทม์ไลน์อย่างละเอียด

 

สำหรับอาการของ “ผู้ป่วยรายที่ 3 มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต ผื่นขึ้นเริ่มบริเวณอวัยวะเพศ ต่อมาตามร่างกาย อาการค่อนข้างชัดเจน จึงมารพ.และมีประวัติเสี่ยงเดินทางมาจากต่างประเทศ จึงมีการส่งตัวอย่างตรวจหาเชื้อฝีดาษวานร

 

นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่า สำหรับวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษวานร องค์การเภสัชกรรม (อภ.)กำลังประสานติดต่อคาดว่าไม่เกินเดือนนี้ ซึ่งคณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค กำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้ 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ยังไม่มีประวัติติดเชื้อแต่ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรค เช่น บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ห้องแล็ป และ2.มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยฝีดาษลิง แต่ไม่เกิน 14 วันหลังจากสัมผัสครั้งสุดท้าย คาดว่าป้องกันโรคได้ ด้านยารักษาโรค

 

ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ตามที่ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน หรือ อีโอซีกระทรวงสาธารณสุข เห็นชอบแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคฝีดาษวานร สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ในโรงพยาบาล (รพ.) เมื่อวันที่ 1 ส.ค.65 ขณะนี้ กรมการแพทย์ได้ประกาศแนวทางดังกล่าว โดยหากพบผู้ป่วยที่สังสัยป่วยโรคฝีดาษลิง ขอให้รับเป็นผู้ป่วยในรพ.(Admit) เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่แน่นอน และเพื่อการควบคุมโรคไปในตัว โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันว่า สามารถตรวจเชื้อได้ใน 24 ชั่วโมง อย่างเร็วที่สุดคือ 3-4 ชั่วโมง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube