ตร.ประชุมโครงการชุมชนยั่งยืนแก้ปัญหายาเสพติด ใช้สาธารณสุขบำบัด kick off พร้อมกันทั่วประเทศ มิ.ย.นี้ สภ.ไหนทำดีมีพิจารณาความดีความชอบ
วันนี้ (25 พ.ค. 65) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. (ปป.) ผอ.ศอ.ปส.ตร.เป็นประธาน พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง จตช. (ช่วยเหลืองาน ปป.) รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.ประชุมสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติงาน กับทุกหน่วยปฏิบัติ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการชุมชนยั่งยืน ในการดำเนินโครงการดำเนินงานชุมชน
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า จากนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลในการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดโดยให้ถือว่าผู้เสพ คือผู้ป่วย เพื่อเป็นการลดอุปสงค์หรือจำนวนผู้ติดยาเสพติดในประเทศให้ลดลง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวฯเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด แบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1-9 จำนวน 1,483 หมู่บ้าน/ชุมชน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน ในการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในชุมชน เพื่อลดจำนวน และทำให้ผู้ใช้ ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดหมดไปจากชุมชน/หมู่บ้าน อย่างเป็นระบบ และยั่งยืน
ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชนโดยเสริมสร้างให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง เข้าใจ และตระหนักถึงปัญหาพิษภัยของยาเสพติดที่ส่งผลกระทบต่อตนเอง อีกทั้งยังถือเป็นต้นเหตุของปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ยังกล่าวว่า ประกอบกับปัจจุบันการเสพยาเสพติดถือเป็นการเจ็บป่วย โรคสมองติดยา ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงต่อสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ดังนั้นการบำบัดรักษา และการช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติดย่อมต้องพิจารณาหลายมิติแบบองค์รวม เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างรอบด้าน
ซึ่งจากการดำเนินการที่ผ่านมา พบว่า ผู้ใช้ ผู้เสพยาเสพติดที่ผ่านการบำบัด ยังขาดภูมิคุ้มกันทางใจ ขาดความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ และกลับไปใช้ยาเสพติดซ้ำอีก
ในปีที่ผ่านมาทำสงครามกับยาเสพติดแต่ยาเสพติดไม่ได้ลดลงเลย ทั้งการนำเข้า การค้า การเสพเพิ่มมากขึ้น จึงได้เปลี่ยนกรอบแนวคิดเป็นการใช้ด้านสาธารณสุขนำ ซึ่งในปี 2565-2570 มองว่าผู้เสพเป็นป่วย เป็นเหยื่อ ผู้เสพต้องมีที่ยืน จึงต้องนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด
โดยการบำบัดเป็นหน้าที่ของ กระทรวงสาธารณสุข และเมื่อหายแล้ว เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยจะนำไปฟื้นฟู โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับงบประมาณ 77.9 ล้านบาทต่อปี
สำหรับโครงการดังกล่าวทั่วทั้งประเทศ ส่วนในปีถัดไปหากผลตอบรับของโครงการดี จะได้รับงบประมาณเพิ่มหรือไม่นั้น ต้องรอดูการประเมินผลก่อน ซึ่งตอนนี้ได้รับผลตอบรับดีมาก จากทุกภาคส่วน
ทั้งนี้ หาก สภ.ใดสามารถทำได้ดีตามกรอบการประเมิน ผู้บังคับบัญชาระดับสูงจะพิจารณาความดีความชอบให้ด้วย โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่ม kick off พร้อมกันทั่วประเทศในห้วงวันที่ 1-3 มิ.ย.นี้
สำหรับปีที่ผ่านมามีคนสมัครใจเข้าร่วมบำบัดประมาณ 15,000 คน หายจากการเสพยาประมาณ 12,000 คน คิดเป็นประมาณ 80%
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews