รองผบ.ตร.คาดคนแห่กลับต่างจังหวัดสงกรานต์มากที่สุด 12 เม.ย.โดยเพิ่มขึ้น 10 % จากปีที่แล้ว – จัดกำลังตำรวจดูแลตามเส้นทาง เปิดจุดบริการกว่า 200จุด พร้อมเตือนระวังตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์
พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( รองผบ.ตร.) เปิดเผย ว่าตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางออกต่างจังหวัดเพื่อกลับถูมิลำเนาและท่องเที่ยวต่างจังหวัดช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565แล้ว โดยปีนี้คาดการณ์ว่าวันที่ 12 เม.ย.65 ประชาชนจะเดินทางออกต่างจังหวัดมากที่สุดโดยปริมาณรถจะเพิ่มขึ้น 10 % จากปีที่แล้วหรือประมาณ 6-7 ล้านคัน ทั้งขาไปและขากลับ
โดยขากลับคาดว่าประชาชนจะเริ่มเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯในวันที่ 16-17 เมษายน สำหรับมาตรการการดูแลและอำนวยความสะดวก ตำรวจจะใช้รูปแบบเดิม โดยเฉพาะเส้นทางหลัก จะมีการจัดเจ้าหน้าที่ไปคอยอำนวยการจราจร คืนพื้นผิวจราจร จุดซ่อมสร้างต่างๆ เน้นเจ้าหน้าที่จราจรไปจัดระเบียบบริเวณนั้นและทำป้ายประชาสัมพันธ์แนะเลี่ยงเส้นทาง พร้อมแนะนำประชาชนให้ติดตามข่าวสารการจราจรก่อนออกเดินทาง ทั้งผ่านทางเพจของตำรวจทางหลวงเพื่อให้ทราบการเดินทางในวันนั้นว่าเป็นอย่างไร
ส่วนจุดบริการเจ้าหน้าที่มีให้กว่า 200 จุด เพื่อให้ประชาชนเแวะพักดื่มกาแฟหรือของว่างได้ ไม่อยากให้เหนื่อยล้าเกินไป ขณะที่ปีนี้ตำรวจทางหลวงยังเปิดห้องพักให้ประชาชนที่ต้องการพักระหว่างเดินทางโดยสามารถเข้าไปจองและดูรายละเอียดทางเพจของตำรวจทางหลวง
รองผบ.ตร.กล่าวว่าในปีนี้ ตำรวจภูธรภาค 6 ได้มีการประสานกับพูดคุยกับศาลอาญาภาค 6 นำร่องการจับกุมเมาแล้วขับในช่วงวันที่ 11-18 เมษายน โดยจะไม่มีการรอลงอาญา แต่ผู้ถูกจับกุมจะลงโทษจำคุกหรือกักขังเท่านั้น หากได้ผลลดอุบัติเหตุก็จะขยายในภาคต่างๆ ส่วนภาคอื่น ยังคงมีการดำเนินคดีตามปกติ ส่วนการยึดรถของกลางจะดูเป็นกรณีไป แต่ส่วนใหญ่จะอายัดไว้ชั่วคราว ต่างจากเด็กแว้นที่ศาลจะมีคำสั่งยึดเพราะขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย
นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจยังได้ระดมกวาดล้างอาชากรรมช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมประชาชนสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังอย่าตกเป็นเหยื่อของแก๊งเซ็นเตอร์ที่มาในรูปแบบต่างๆด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
