ผกก.ทองหล่อ เผยแยกอัจฉริยะยังไม่ถึงเดือนพบผู้กระทำความผิดกว่า 2.5 หมื่นราย ส่วนใหญ่ จยย. ฝ่าสัญญาณไฟ – เตรียมนำโครงการขยายพื้นที่ต่างๆทั่วกรุง
พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ชเปิดเผยว่ากรุงเทพมหานครได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ( ตร.)นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิดเกี่ยวกับการจราจรบนท้องถนนโดยเฉพาะแยกอโศก-สุขุมวิท พื้นที่สน.ทองหล่อมีโครงการแยกอัจฉริยะด้วยการติดตั้งกล้องตรวจจับป้ายทะเบียนรถที่ฝ่าฝืนกฎจราจรและทำความผิดลักษณะคือจะเป็นทางม้าลายสีแดงหากมีล้อรถไปเหยียบเส้นทางม้าลายหรือฝ่าฝืนไฟแดงไม่หยุดรถ สัญญาณก็จะถูกส่งไปที่ห้องควบคุมจราจรของ สน.ทองหล่อพร้อมระบุว่าโครงการดังกล่าวแบ่งเป็น 3 เฟส คือเฟสแรกเริ่มตั้งแต่ ต.ค.64-ธ.ค.64
เป็นช่วงที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ เช่น กล้องความละเอียดสูงสถานที่ควบคุมสัญญาณจราจร(ห้องจราจรทองหล่อ)และห้องคอนโทรล์ทำหน้าที่ควบคุมพื้นที่ทั้งหมดซึ่งห้องนี้จะเชื่อมกับโครงการ Smart Safety Zone ที่กำกับดูแลอาชญากรรมทั้งระบบเมื่อตรวจพบการกระทำผิดก็จะมีการสั่งการต่อไป ในส่วนของเฟสแรกนี้ได้ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ส่วนเฟสสองเริ่มเดือน ก.พ.นี้ ซึ่งเป็นการเก็บสถิติของผู้กระทำความผิดและทำสัญลักษณ์ป้าย แจ้งเตือนว่าบริเวณแยกมีกล้องตรวจจับการกระทำความผิด รวมทั้งมีการว่ากล่าวตักเตือนและประชาสัมพันธ์ ให้กับประชาชนได้รับรู้ ส่วนเฟสสามเริ่มเดือน มี.ค.นี้ จะเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยจะมีการรวบรวมข้อมูลผู้กระทำผิดและส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ไปตามที่อยู่จนถึงเดือน เม.ย.จากนั้นทางคณะกรรมการฯจะมีการประเมินและสรุปผลรวม ทั้งปัญหาที่ต้องปรับปรุงแก้ไข ก่อนจะมีการขยายผลนำไปใช้ในพื้นที่อื่นต่อไป
ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวว่าสำหรับผลการทดลองเบื้องต้นตั้งแต่ 1 ม.ค.-25 ม.ค.พบว่ามีผู้กระทำความผิดประมาณ 25,000 คน หรือเฉลี่ยวันละ 1,000คน ข้อหาส่วนใหญ่เป็นการฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรและจอดรถในพื้นที่ห้ามจอด ส่วนใหญ่รถที่กระทำความผิดเป็นรถจักรยานยนต์ ส่วนที่เลือกนำร่องที่แยกอโศก-สุขุมวิท เนื่องจากอยู่กลางใจเมืองเป็นย่านธุรกิจการค้าที่สำคัญมีประชาชนสัญจรผ่านจำนวนมาก อีกทั้งการจราจรค่อนข้างติดขัดและเกิดอุบัติเหตุบ่อย โดยเฺฉพาะการข้ามทางม้าลาย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกทม.จะขยายโครงการนำร่องไปยังแยกทองหล่อ สุขุมวิท 55 และแยกปทุมวันรวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจต่างๆในพื้นที่ต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
