ตำรวจตามรวบคนหมิ่น เจนี่-มิกกี้ พ่อแม่ ยันเอาเรื่องถึงที่สุด ไม่อยากให้สังคมเอาเยี่ยงอย่าง
จากกรณี เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร นักแสดงสาวชื่อดัง เดินทางไปแจ้งความต่อ บก.ปอท. เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 63 เพื่อดำเนินคดีกับเพจเฟซบุ๊ก “สัพเพเหระ all about ไอ้แบ้และอิปลวก” ที่นำภาพครอบครัวไปตัดต่อและโพสต์ลงบนโลกโซเชียล ทำให้มีคนเข้าไปแสดงความเห็นในลักษณะบูลลี่ และคุกคาม “น้องโนล่า” บุตรสาว ซึ่งพบผู้กระทำผิดเข้าข่ายผิดกฎหมาย 10 ราย และ สน.วังทองหลาง ออกหมายจับบุคคลดังกล่าว โดยเมื่อวานนี้ (26 ธ.ค.) ฝ่ายสืบสวนสน.วังทองหลาง สามารถจับกุม น.ส.อรทัย (สงวนนามสกุล) 1 ในผู้ต้องหา 10 ราย จาก จ.ยโสธร มาดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และนำตัวขังไว้ ณ ห้องขัง สน.วังทองหลาง
ล่าสุด วันนี้ (27 ธ.ค. 64) ดร.สิริพร ณ ป้อมเพชร อัลภาชน์ และนายสุภรัตน์ อัลภาชน์ ทนายความ และโค้ชรักบี้ทีมชาติไทย (พ่อ-แม่ สามี) เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร ดาราสาวชื่อดัง จึงเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ยืนยันเอาผิดผู้ต้องหาคดีร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากการบลูลี่น้องโนล่า (ลูกสาว) ในเพจ”สัพเพเหระ all about ไอ้แบ้และอิปลวก”
ดร.สิริพร กล่าวว่า ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ปอท. มีการพิสูจน์ทราบตัวตนผู้กระทำผิดได้หลายราย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และบางรายมีลูกแล้ว ซึ่ง สน.วังทองหลาง ออกหมายเรียกผู้กระทำผิดดังกล่าว ซึ่งหลายรายเดินทางมาเพื่อไกล่เกลี่ยก่อนหน้านี้แล้ว แต่บางรายไม่เดินทางมา จึงต้องมีการออกหมายจับ ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องดำเนินคดี เนื่องจากมีการโพสต์ข้อความด่าทอรุนแรงมาก ไม่สามารถออกสื่อได้ และคนในสังคมไม่ใช้กัน ซึ่งมีแต่คำหยาบคาย โดยตนรู้สึกสงสัยว่ามิกกี้กับเจนี่ทำอะไรให้ไม่พอใจ จนถึงขั้นลามไปถึงครอบครัว
นายสุภรัตน์ กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นรายแรกที่มีการออกหมายจับ สำหรับรายที่มีการไกล่เกลี่ยไปก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่อ้างว่าทำตามคนอื่น เห็นคนอื่นทำจึงทำบ้าง ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตนไม่ได้ต้องการเงินทองแต่ต้องการให้ผู้กระทำผิดรู้สึกว่าเป็นอย่างไร เพื่อเป็นตัวอย่างแก่อีกหลายรายในสังคม และไม่กระทำเช่นนี้กับผู้อื่นอีก รวมทั้งต้องการปกป้องคนในครอบครัว เนื่องจากส่งผลต่อหน้าที่การงานของเจนี่และมิกกี้
นอกจากนี้ ยังมีผู้กระทำผิดที่ อาศัยอยู่ในต่างประเทศด้วย ซึ่งปอท. สันนิษฐานว่าตัวแอดมิน เพจอาจจะอยู่ต่างประเทศ เนื่องจากเวลาในการโพสต์ มักจะเป็นในช่วงเวลาดึก อย่างไรก็ตามคดีนี้มีอายุความ 10 ปี ซึ่งยังมีเวลาอีกเก้าปีที่จะตามตัว ดร.สิริพร กล่าวอีกว่า ภายหลังเดินทางเข้าพบผู้ต้องหารายดังกล่าว ให้เหตุผลว่า เห็นคนอื่นด่าทอจึงด่าบ้าง พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ แต่เมื่อตนได้ยินเหตุผลรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง และตนไม่รู้สึกอะไร กลับคำขอโทษ เพราะรู้สึกว่าง่ายไป เนื่องจากครอบครัวของตนไม่ได้ทำอะไรผิด ทั้งนี้ จะดำเนินการส่งฟ้องศาล และให้เป็นไปตามดุลยพินิจของศาลต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
