fbpx
Home
|
อาชญากรรม

แม่ร้องตร.ลูกถูกรถชนแต่ตร.จับใส่กุญแจมือไม่ส่งรพ.จนตาย

Featured Image
ครอบครัวร้องขอความเป็นธรรมเหยื่อถูกตำรวจใส่กุญแจมือไพล่หลังคดีรถชน พร้อมนำร่างไร้วิญญาณร้อง ผบ.ตร. เร่งรัดคลี่คลายคดี หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม

มารดาและพี่สาวของ นายธนวัชร์ กลัดเสนาะ อายุ 41 ปี ถูกตำรวจ สภ.บางละมุง จังหวัดชลบุรี ควบคุมตัวใส่กุญแจมือไพล่หลัง แล้วนำตัวขึ้นท้ายรถกระบะไปสถานีตำรวจ หลังประสบอุบัติเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับคู่กรณีที่เลี้ยวตัดหน้ากะทันหันบนถนนสุขุมวิท ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยไม่ได้มีการนำตัวส่งรักษายังโรงพยาบาล จนเป็นเหตุให้เลือดคั่งในสมองจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

ทั้งที่จริงแล้วนายธนวัชร์เป็นฝ่ายขับมาทางตรง ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด ได้นำร่างของ นายธนวัชร์ ซึ่งบรรจุในโลงศพมาร้องขอความเป็นธรรม และยื่นหนังสือถึงพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังคดีผ่านมานานกว่า 1 เดือน แต่คดีกลับไม่คืบหน้าในการเอาผิดกับคู่กรณี อีกทั้งหลักฐานกล้องวงจรปิดที่จับภาพเหตุการณ์ได้ก็หายไปมีความพยายามปิดบังหลักฐานในคดี

 

โดย น.ส.สุธินี กลัดเสนาะ พี่สาวของ นายธนวัชร์ เล่าว่า ครอบครัวติดใจการเสียชีวิตของน้องชายในหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นเรื่องที่หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.บางละมุง คุมตัวน้องชายผ่านหน้าโรงพักไป โดยไม่เข้าโรงพัก โดยหายไปนานกว่า 30 นาทีก่อนพากลับมาในสภาพหมดสติ โดยไม่ทราบถูกนำตัวไปอะไรบ้าง และหลักฐานกล้องวงจรปิดบริเวณโรงพักกลับหายไป ทั้งๆ ที่ในวันแรกๆตำรวจได้แสดงหลักฐานดังกล่าวให้ครอบครัวเห็นแล้ว แต่เมื่อไปขอหลักฐานภายหลัง ตำรวจกลับแจ้งว่าไม่มีหลักฐานดังกล่าว นอกจากนี้ตำรวจยังไม่เปิดเผยความคดี รวมถึงรายชื่อบุคคลในเหตุการณ์ที่เข้าควบคุมตัวน้องชาย ทำให้ครอบครัวไม่ทราบว่ามีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับคู่กรณีอย่างไรบ้าง

 

ขณะที่ นางวรรณนะภา กลัดเสนาะ มารดาของ นายธนวัชร์ ระบุว่าหลังเกิดเหตุ คู่กรณีมาขอขมาเพียงครั้งเดียว แต่ไม่มีการช่วยเหลือหรือเยียวยาครอบครัวแต่อย่างใด จากนั้นก็ไม่เจอกันอีกเลยซึ่งทางครอบครัวจะเก็บศพไว้จนกว่าคดีจะได้รับความเป็นธรรม

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebookhttps://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitterhttps://twitter.com/innnews

Youtubehttps://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTokhttps://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account@innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube