สตม. แถลงจับกุม ต่างด้าวสวมสิทธิขอสัญชาติไทย
พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. แถลงผลการจับกุมคนร้าย คือนายโอมจี อายุ 47 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 284/2564 ข้อหา “เป็นผู้ยื่นคำขอมีบัตรประชาชนโดยมิได้มีสัญชาติไทย ด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่, เป็นคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ทำหรือใช้หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมีชื่อหรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้านหรือเอกสารทะเบียนราษฎร์อื่นโดยมิชอบ,แจ้งข้อความอันเป็นเท็จหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการที่มีบัตรประจำตัวประชาชน,
สืบเนื่องจาก ตม.จ.ภูเก็ต ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคนต่างด้าวมีพฤติกรรมทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ของ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงได้ดำเนินการตรวจสอบสืบสวนจนพบข้อมูลต้องสงสัยน่าเชื่อว่า นายโอมจี อายุ 49 ปี เดิมเป็นบุคคลสัญชาติเมียนมา ได้รับสัญชาติไทย ซึ่งอาจเป็นผู้ได้มาซึ่งสัญชาติไทยโดยไม่ถูกต้อง จากนั้น จึงได้ตรวจสอบไปยังกรมการปกครองและได้รับการสนับสนุนข้อมูลจากกรมการปกครองกลับมาว่า บุคคลดังกล่าว ( นายโอมจี ) มีภาพใบหน้าลักษณะคล้ายชาวอินเดียไม่น่าจะเป็นพี่น้องกับบุคคลในทะเบียนประวัติราษฎร อีกทั้ง ทะเบียนประวัติมีลักษณะเป็นการจัดทำขึ้นใหม่ทั้งฉบับซึ่งไม่ปรากฏหลักฐานดังกล่าวในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร ประกอบกับการ การทำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยครั้งแรกนั้นได้ดำเนินการหลังระยะเวลาที่ได้จัดทำทะเบียนประวัติเป็นเวลานาน
ตม.จ.ภูเก็ต จึงได้ประสานข้อมูลให้ บก.สส.สตม. ช่วยสืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงสอบสวนปากคำพยานซึ่งเป็นบุคคลในครอบครัวที่นายโอมจีงเข้าไปสวมสิทธิ เจ้าหน้าที่สืบสวนได้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนน่าเชื่อว่า นายโอมจีฯ มีพฤติกรรมสวมสิทธิของบุคคลอื่น เพื่อขอมีสัญชาติไทย ขอมีบัตรประชาชนและเพิ่มข้อมูลในทะเบียนราษฎร์โดยทุจริตเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา จนกระทั่งวันที่ 9 ต.ค. 64 ตม.จ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบที่พักอาศัยอยู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน จ.ภูเก็ต และพบ นายโอมจี ผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงจับกุมผู้ต้องหา นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
