ตำรวจตามจับ 2 คนร้ายปาระเบิดใส่ป้อมจราจรแยกอโศกกลางดึก -พบซุกระเบิดแสวงเครื่องย่านดินแดง15ลูก-จัดกำลังดูแลม็อบทุกกลุ่ม
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากปฏิบัติการเชิงรุกของตำรวจ ด้วยการวางกำลังบริเวณแยกดินแดงและโดยรอบ จึงไม่พบการรวมตัวของกลุ่มที่จะมาก่อความวุ่นวาย แต่ช่วงสายได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบวัตถุต้องสงสัย บริเวณตึกโอภาสแมนชั่น ซอยแสงอุทัยทิพย์ เขตดินแดง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง 15 ลูก และประทัดบอล 13 ลูก จึงได้เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาความเชื่อมโยงกับคดีเก่า และหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป
นอกจากนี้ ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พบมีผู้ก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ปาระเบิดใส่ป้อมจราจร บริเวณแยกอโศก ตำรวจสามารถตามจับผู้ต้องหาได้ 2 คน อายุประมาณ 19-20 ปี พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ 1 คัน เบื้องต้นให้การว่า จะมาร่วมชุมนุมบริเวณแยกดินแดง แต่ไม่พบมีการชุมนุม จึงเดินทางกลับ และมาก่อเหตุบริเวณจุดเกิดเหตุ สอดคล้องกับการข่าวของตำรวจว่ากลุ่มผู้ชุมนุม มีการระดมเงิน เพื่อมาประกอบระเบิดก่อความวุ่นวาย โดยเตรียมออกหมายจับผู้ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีอีก 1 คน
ส่วนช่วงเย็นวันนี้ มีการนัดรวมตัวของกลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม และกลุ่มพลเมืองโต้กลับ บริเวณหน้าศาลฎีกา ลักษณะเป็นการจัดกิจกรรมเพื่อแสดงออกทางการเมือง คาดว่า ไม่น่าจะมีการเคลื่อนย้ายจุด จึงไม่น่าเป็นกังวล แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังบริเวณแยกดินแดงต่อเนื่อง โดยตำรวจนครบาล ได้จัดเตรียมกำลังไว้ทุกจุดแล้ว โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่าในช่วงวันที่ 13-14 ตุลาคม ที่จะมีการจัดงานสำคัญต่างๆนั้น ยืนยันว่า ตำรวจจะมีการติดตามด้านการข่าว และความเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มต่าง ๆ รวมถึงจัดเตรียมกำลังไว้แล้วพร้อมเตือนว่า หากมีการก่อความวุ่นวาย ตำรวจจะรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีทุกราย ส่วนกรณีความขัดแย้งในคณะสงฆ์ โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่าอาจรวมตัวกันเข้ากรุงเทพนั้น ยังไม่ยืนยันแน่ชัดว่าจะมีการเดินทางเข้ามาจริงหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างพัฒนาการข่าว แต่ไม่ว่าจะเดินทางมาหรือไม่ได้มีการเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
