กองปราบ จ่อส่งสำนวน ผกก.โจ้ กับพวกให้ ปปช. 7 ก.ย. นี้ พร้อมลุยสอบเส้นทางการเงิน-รถหรูต่อ
พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี พันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนพล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์กับพวก ในคดีฆาตกรรมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ว่า ในเรื่องนี้ พลตํารวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน จะนัดประชุมทีมพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามเร่งรัดคดี วันที่ 6 ก.ย. นี้
ล่าสุด สำนวนคดีนี้ ถูกโอนจากภูธรเมืองนครสวรรค์ มาที่กองปราบปราม เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกองปราบปรามเอง อยู่ในคณะทำงานใหญ่ ที่ตั้งขึ้นโดย พลตํารวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และมีหลายหน่วยงานเข้าร่วมเป็นคณะทำงาน ในส่วนของกองปราบปรามเองรับผิดชอบคดีหลัก คือคดีฆาตกรรม ส่วนภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งก็อยู่ในคณะทำงานใหญ่ด้วยเช่นกัน รับมอบหมายให้ดูแลเกี่ยวกับสำนวนการชันสูตรพลิกศพและคดีที่เกี่ยวกับการล่อซื้อยาเสพติดของผู้เสียชีวิต
ส่วนคดีที่มีการร้องเรียนของผู้เสียหาย ผ่านสื่อ ที่เกี่ยวข้องกับ ผู้กำกับโจ้และพวก นั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีวิทยุสั่งการด่วนที่สุด มอบหมายให้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด
ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์หรูในความครอบครองของผู้กำกับโจ้ นั้น พลตำรวจตรีจิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้มอบหมายให้กองปราบปราบ สอบสวนเกี่ยวกับเรื่องเส้นทางการเงินและรถต่างๆ
รองผู้บังคับการปราบปราม ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับคดีหลักคือ คดีฆาตกรรมนั้น จะต้องสรุปสำนวน ส่งให้ ปปช. ในวันอังคารที่ 7 กันยายน นี้ เนื่องจากกฎหมายระบุไว้ว่า หากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าพนักงานของรัฐกระทำความผิด จะต้องส่งให้ ปปช.ภายใน 30 วัน เพื่อให้ ปปช.ดำเนินการตรวจสอบสำนวน
ส่วนขั้นตอนหลังจาก เรื่องไปถึง ปปช. แล้ว ก็จะมี 2 แนวทาง คือ ปปช.รับสำนวนไว้ไต่สวนเองหากเป็นเช่นนั้น คณะพนักงานสอบสวน ก็จะหมดหน้าที่ในการทำคดีนี้ทันที แต่หากปปช. ไม่รับสำนวน ก็จะส่งคืนมาให้ทางคณะพนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนต่อไป ซึ่งคาดว่า ปปช. เองก็จะเร่งพิจารณาสำนวนนี้เช่นกัน เพราะขณะนี้ตัวผู้ต้องหายังอยู่ในอำนาจการฝากขังของศาล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
