รุ่นพี่ นศ.อุเทนถวายฯ เข้าให้ข้อมูลตำรวจคดี “น้องปลื้ม” ออกหมายเรียกพยานกว่า 60 คน สอบแล้ว 16 ปาก
นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย 1ใน 40 คน เข้าพบพนักงานสอบสน.ปทุมวัน ตามหมายเรียกในฐานะพยานเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของ นายวีรพัฒน์ ตามกลาง หรือ ปลื้ม นักศึกษาคณะวิศวกรรมโยธา แผนกวิศวกรรมก่อสร้าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย โดยอาจารย์ที่นำนักศึกษาคนดังกล่าว มาปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชน
พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานคนนี้ ในหลายประเด็น ทั้งเรื่องสถานที่ เวลาที่เกิดเหตุ กิจกรรมที่เกิดขึ้น รวมถึงการส่งตัวนายวีรพัฒน์ ไปโรงพยาบาลหัวเฉียว หลังถูกทำร้ายร่างกายแล้ว พร้อมประสานข้อมูลจากแพทย์โรงพยาบาลหัวเฉียว และแพทย์จากโรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา มาให้ข้อมูลเนื่องจากพบว่า ผลการตรวจชันสูตรพลิกศพของนายวีรพัฒน์ พบลิ่มเลือดจากน่องไปอุดปอด เป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งพนักงานสอบสวนจำเป็นต้องสอบปากคำแพทย์ทั้ง 2 โรงพยาบาล ว่าขณะรับตัวมารักษาก่อนจะเสียชีวิต มีอาการอย่างไร อีกทั้งต้องสอบปากคำครอบครัวของผู้เสียชีวิตว่าผู้ตายมีโรคประจำตัวหรือไม่ เพื่อต้องการให้สำนวนคดีมีความรัดกุมมากขึ้น
โดยตำรวจออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องไปแล้วรวมกว่า 60 หมายเรียก สอบปากคำพยานไปแล้ว 16 ปาก ประกอบด้วยอาจารย์, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย, บุคคลที่เข้า-ออกมหาวิทยาลัยในวันเกิดเหตุ และคนงานก่อสร้างอาคารที่เกิดเหตุ แต่ในจำนวนนี้ยังไม่มี นักศึกษารุ่นพี่เข้าให้ปากคำแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผกก.สน.ปทุมวัน ยอมรับว่าการสอบปากคำพยานหลายคนถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งตำรวจไม่จำเป็นต้องสอบปากคำให้ครบทุกปาก พร้อมย้ำว่าตำรวจทราบกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุ แต่ยังไม่ยืนยันจำนวนจึงยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลใดในขณะนี้ แม้จะมีความผิดที่เกี่ยวข้องหลายข้อหา เช่น ทำร้ายร่างกายทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรค และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ดังนั้นจึงขอให้ผู้ที่รู้ตัวและมีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาพบพนักงานสอบสวน
ส่วนความผิดบุกรุกสถานที่ราชการในยามวิกาล หากผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯเห็นว่าเสียหายก็สามารถเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
