fbpx
Home
|
อาชญากรรม

คนร้ายยิงสายตรวจแสมดำมีประวัติคดียาเสพติด,ปล้น

Featured Image
ผู้การ 9 ยัน ทำตามยุทธวิธี สกัดคนร้าย ยิงสายตรวจแสมดำ พบมีประวัติคดียาเสพติด และปล้น เพิ่งพ้นโทษ มาเมื่อเดือน ต.ค. ปี 2563

พล.ต.ต.พงศ์อนันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 พ.ต.อ.อชิรวิทย์ ทองจันดี ผู้กำกับ การสถานีตำรวจนครบาลแสมดำ ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้า เหตุคนร้ายชายใช้อาวุธปืน 2 กระบอก ยิงสายตรวจแสมดำ บริเวณอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ใน ซ.สะแกงาม 38 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เมื่อคืนวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา

คดี ยิงสายตรวจแสมดำ

ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.ต.ท.บวรทัต สุภาจิตร ส.ต.ท.ภาณุพงศ์ วุฒิเม ผบ.หมู่ งานป้องกันและปราบปราม สน.แสมดำได้ออกตรวจพื้นที่ ด้วยรถจักรยาน 1 คัน โดยพบจักรยานยนต์ต้องสงสัย 2 คัน จอดริมถนน ปากซอยสะแกงาม 38 จึงขอตรวจค้น แต่ผู้ต้องต้องสัย ได้ขับขี่หลบหนีไปทางถนนพระราม 2  ส่วนจักรยานยนต์ผู้ต้องหา ได้ขับหลบหนีเข้าไปภายใน ซอยสะแกงาม 38 ก่อนจะวิ่งเข้าไปภายในอพาร์ทเม้นท์

 

คดี ยิงสายตรวจแสมดำ พงศ์อนันต์ คล้ายคลึง 21-5-64

ก่อนตรวจสายจะปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าว แต่คนร้ายก็ได้ใช้อาวุธปืน 2 กระบอกยิงใส่เจ้าหน้าที่ 2 นาย เพื่อเปิดทางหลบหนี โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ แต่มีร่องรอยความเสียหายจากกระสุนปืน และปลอกกระสุนปืน ตกอยู่ที่เกิดเหตุ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า คนร้ายรู้จักคนในอพาร์ทเม้นท์ จึงหลบหนีเข้าไปเพื่อจะซ่อนตัว

อีกทั้งพบประวัติคนร้าย เคยถูกจับดำเนินคดีปล้นทรัพย์ ค้ายาเสพติด ในหลายพื้นที่ ของ กทม. รวมทั้งล่าสุด ถูก สน.ทุ่งครุ จับกุมในคดียาเสพติด เพิ่งพ้นโทษ มาเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2563 ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกคัน ที่ขับไปทางถนนพระราม 2 นั้น อยู่ระหว่างการติดตามตัว

ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 กล่าวว่า วิธีการจับกุมยืนยันว่า เป็นไปตามยุทธวิธียามวิกาล ที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน และตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการตรวจสอบ ว่า มีข้อบกพร่องตรงไหนหรือไม่ พร้อมจะมีการปรับปรุงต่อไป

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube