fbpx
Home
|
ข่าว

แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯยื่นกมธ.สอบตำรวจสลายม็อบ

Featured Image
กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ยื่น กมธ.พัฒนาการเมือง สอบตำรวจสลายชุมนุม 14 พ.ย. ชอบหรือไม่ หลังพบประชาชนถูกยิง

 

นายสัตวแพทย์ ปดิพัทธ์ สันติภาดา กรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรับหนังสือจากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมและกลุ่ม We volunteer เพื่อขอให้กรรมาธิการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการควบคุมการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาว่าเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่รวมถึงการใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกินกว่าเหตุหรือไม่

โดยนายวชิรกรณ์ วิภาศรีนิมิต ตัวแทนจากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวว่า เนื่องจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 เป็นการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบสันติและปราศจากอาวุธได้มีการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมจากจุดนัดหมายที่แยกปทุมวันไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันประจำประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณถนนสาทรใต้ เพื่อยื่นหนังสือแถลงการณ์แสดงเจตนารมณ์ต่อผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนผ่านบริเวณ หน้าสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ปรากฏเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใช้กำลังต่อผู้ชุมนุมและมีการใช้กระสุนยางเพื่อปราบปรามประชาชนที่มาชุมนุมส่งผลให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

โดยหนึ่งในนั้นถูกยิงด้วยกระสุนไม่ทราบชนิดที่บริเวณหน้าอกช่วงสิ้นปีและอีกรายถูกยิงบริเวณไหปลาร้าอีกทั้งหลังการประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 19.30 น.
ยังพบผู้ร่วมชุมนุมถูกกระสุนยางยิงบริเวณ หน้าผากอีกราย พร้อมตั้งข้อสังเกต ว่า สะเก็ดไฟที่ออกจากปลากระบอกปืน ดูใหญ่กว่าการยิงกระสุนยางอยากให้คณะกรรมาธิการช่วยตรวจสอบหาข้อเท็จจริงด้านนายปดิพัทธ์ กล่าวว่าการตรวจสอบการสลายการชุมนุมจะมีข้อมูล 2 ชุด คือ ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รัฐและข้อมูลจากผู้ชุมนุม คณะกรรมการก็จะตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยหลักฐานทั้งหมด ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจบริสุทธิ์ใจต้องเอาหลักฐานของตัวเองมาแสดงด้วย ที่ผ่านมาเราได้รับความร่วมมือน้อยมากและมีการอ้างอยู่เสมอว่าปฏิบัติตามหลักสากล โดยวันนี้ เก็ได้เชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน มาชี้แจงต่อ กมธ. ซึ่งพยายามที่จะพูดคุยว่าแนวทางควรจะเป็นอย่างไร แต่ได้รับความร่วมมือน้อยมาก เช่น กรณีที่มีการจับกุมนักข่าวเมื่อปีที่แล้ว กว่าที่จะเชิญมาได้ต้องใช้เวลาถึง 6 ครั้ง

ทั้งนี้ จะเดินหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาความรับผิดชอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลตำรวจอยู่ขณะเดียวกัน ถ้าการชุมนุมโดยสันติ การนำเสนอข่าวอย่างเสรียังเป็นไปไม่ได้ ก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากในการโดนคุกคามทั้งคดีความที่เกิดขึ้นกับพรรคการเมือง สื่อมวลที่โดนลิดรอนสิทธิเสรีภาพ และความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุม ซึ่งน่าเป็นห่วงอย่างมาก นอกจาก กมธ.พัฒนาการเมืองจะดำเนินการตรวจสอบกรณีนี้แล้ว พรรคก้าวไกลก็จะดำเนินการในสภาด้วยที่จะทำให้พื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยกันสามารถเป็นไปได้

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube