fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“พิธา” แพ้โหวต ได้ไม่ถึง 375 วืดนายกฯ รอบแรก

การประชุมร่วมรัฐสภา วันนี้ พิจารณาวาระเลือกนายกรัฐมนตรี บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ เพียงชื่อเดียว แบบไร้คู่แข่ง ด้านประธานรัฐสภา

 

 

 

การประชุมร่วมรัฐสภา วันนี้ พิจารณาวาระเลือกนายกรัฐมนตรี บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ เพียงชื่อเดียว แบบไร้คู่แข่ง ด้านประธานรัฐสภา เปิดให้สมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวาง และท้ายที่สุดที่ประชุมมีมติเห็นชอบนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี เพียง 324 เสียง โดยได้คะแนนไม่ถึงกึ่งหนึ่ง คือ 375 เสียง ทั้งนี้ มี สว. ลงมติให้นายพิธา แค่ 13 คน เท่านั้น ทำให้นายพิธาไปไม่ถึงฝั่งฝันเป็นนายกรัฐมนตรี ในรอบแรก

 

 

 

การประชุมร่วมกันของรัฐสภา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักสมาชิกรัฐสภาทั้ง ส.ส. และ ส.ว. เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม มีวาระญที่สำคัญ คือ การพิจารณาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 โดยนายวันมูหะมัดนอร์ ได้แจ้งเปิดประชุม พร้อมกล่าวต่อสมาชิก วันนี้ตนทำหน้าที่การประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งแรก ยืนยันว่า ตนจะทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง

 

 

 

จากนั้น ได้เริ่มเข้าสู่วาระการเสนอชื่อบุคคลที่สมควรเป็นนายกฯ ตามมาตรา272 โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นเป็นตัวแทน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีผู้รับรองถูกต้อง จากนั้น ได้เปิดให้สมาชิกแสดงตนผ่านการเสียบบัตร ทั้งนี้ ไม่มีพรรคการเมืองใดเสนอแข่ง

 

 

 

บรรยากาศของการอภิปรายของ สมาชิกรัฐสภาที่เป็น ส.ว. และ ส.ส. ขั้วรัฐบาลเดิม ต่างพุ่งเป้าโจมตีไปที่การแก้ไข ม.112 และคัดค้านการโหวตนายพิธา เป็นนายกฯ ซึ่งตามร่างของพรรคก้าวไกล สะท้อนให้เห็นว่า ไม่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูง รวมถึงการแสดงแนวคิดเปลี่ยนวันชาติที่ทำให้เป็นประเด็นไม่อาจสนับสนุนนายพิธาได้

 

 

 

ทำให้ นายพิธา ลุกขึ้นใช้สิทธิ์พาดพิง โดยยืนยัน ตนมีคุณสมบัติ สมบูรณ์แบบ และความชอบธรรมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมมองว่า จะมีศาลเตี้ยในรัฐสภาไม่ได้ ส่วนการแก้ ม.112 เป็นนโยบายหาเสียง ที่พูดแล้วต้องทำ และเป็นหน้าที่ของสภาฯ แก้ไขกฎหมายที่เป็นข้อขัดแย้งอย่างมีเหตุผล อีกทั้งไม่อยู่ MOU จัดรัฐบาล

 

 

ทั้งนี้ การประชุมร่วมรัฐสภา ที่ใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมงในการอภิปราย หลังเสนอชื่อนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีสมาชิกอภิปรายรวมทั้งหมด 17 คน จากนั้น ในเวลา 16.05 น. ประธานในที่ประชุมได้สั่งให้เริ่มลงมติ ซึ่งเป็นการขานชื่อโดยเปิดเผยว่า เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ หรืองดออกเสียง โดยใช้เวลาลงคะแนนกว่า 2 ชั่วโมง

 

จากนั้น ประธานรัฐสภา ได้ขานคะแนน นายพิธา ระบุว่า ได้คะแนนเห็นชอบเพียง 324 ไม่เห็นชอบ 182 งดออกเสียง 199 ไม่มาลงคะแนน 44 ทำให้คะแนนนายพิธา ได้คะแนนไม่ถึงกึ่งหนึ่ง 375 จาก 749 เสียง จึงไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จากการจำแนกคะแนน พบว่า จากการลงมติ 8 พรรค ร่วมจัดตั้งรัฐบาลลงมติเห็นชอบให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไม่มีแตกแถว และมี สว. โหวตให้นายพิธา แค่ 13 คน

 

 

ส่วนที่เหลือ สว. เป็นการลงมติไม่เห็นชอบและงดออกเสียง และยังพบว่า สว. ไม่ปรากฏตัวในที่ประชุม มากถึง 43 คน โดยทราบว่า แจ้งลาประชุม 33 คน นอกจากนี้ ยังพบว่า 10 พรรคการเมืองจากเสียงข้างน้อย ส่วนใหญ่ ลงมติไม่เห็นชอบนายพิธาทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทยพัฒนา ลงมติงดออกเสียง และ ส.ส.ไม่ปรากฏลงคะแนน คือ นายศักดิ์ ซารัม ภูมิใจไทย ขณะเดียวกัน นายพิธา ยอมรับผลคะแนนในวันนี้ แต่ไม่ยอมถอยพร้อมที่จะเดินหน้าปรับยุทธศาสตร์หาเสียงสนับสนุนต่อไป ทั้งนี้ต้องรอประธานรัฐสภานัดประชุมอีกครั้ง

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube