fbpx
Home
|
บันเทิงไทย

หยุดตรงนี้ที่เธอ!ต๊ะ วริษฐ์ รับยอมถอดเขี้ยวเล็บเพราะเจอรักแท้ที่ตามหา

Featured Image

หยุดตรงนี้ที่เธอ!ต๊ะ วริษฐ์ รับยอมถอดเขี้ยวเล็บเพราะเจอรักแท้ที่ตามหา ตอนนี้ชีวิตแฮปปี้มากเพราะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ

นับเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่มีผลงานคุณภาพออกมาให้แฟนๆชมกันตลอด สำหรับต๊ะ วริษฐ์ ที่ควงภรรยาคนสวย แอน วริษฐา มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เปิดแบบหมดเปลือกถึงทุกวรีกรรมในเรื่องของความรักแต่สุดท้ายเมื่อเจอคนที่ใช่เราจะหยุดที่จะมีความสุขกับความสนุกเอง ตอนนี้ชีวิตแฮปปี้มากเพราะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ

ถาม ต๊ะ เข้าวงการมาตั้งแต่ ??
ต๊ะ วริษฐ์ : ปี 2003 ครับ เป็นดัชชี่บอยตอนนั้นที่เข้ามาก็ประมาณ 20 ต้นๆครับ

ถาม เพราะฮอตขนาดนี้ หล่อขนาดนี้ก็เลยเป็นที่มาของความที่สาวๆรุมล้อมหรือเปล่า
ต๊ะ วริษฐ์ : คนก็จะเห็นเราในโทรทัศน์เป็นเรื่องปกติของดาราผู้ชายนะครับ ผมคิดว่าอย่างนั้นนะที่แบบว่าจะต้องเจอผู้หญิงเข้ามาหาพอเข้ามาหาเรารู้สึกตื่นเต้นเราก็เลยเข้าหาเขาตอบ เพราะส่วนใหญ่เวลาที่เขาเข้ามาผมก็จะสู้เขานะครับ เพราะบางทีผมก็ไม่ค่อยถอยเท่าไหร่ครับ แต่ต้องเท้าความไปลึกกว่านั้นอีกคือก่อนหน้านี้ช่วงเด็กๆผมอยู่โรงเรียนประจำเป็นหอพักนักกีฬา ซึ่งก็จะมีแต่ผู้ชายแล้วก็ต้องซ้อมกีฬาตลอดพอเข้ามหาวิทยาลัยมันเหมือนกับว่าออกจากกรงนก บินออกจากกรงได้เหมือนแบบไม่ต้องเจอผู้ชายแล้ว เจอแต่ผู้หญิงรู้สึกว่าชอบผู้หญิงมากเลยชอบของสวยงามอะไรอย่างนี้มันเลยเหมือนกับโหยหา

ถาม สมัยเด็กกว่านี้มีความรักที่จริงจังไหม
ต๊ะ วริษฐ์ : ไม่ครับ ช่วงตอนเด็กผมไม่ได้มีความรักจริงจังเลยมันเป็นรักเพื่อความสุขของผมแบบ … มันเป็นเรื่องของแค่แบบสนุกมีความสุขในวัยเด็กแค่นั้นเองมันเหมือนกับว่าเด็กคนหนึ่งได้แบบเตะฟุตบอลแล้วได้ลูกบอลใหม่ แล้วเตะเรื่อยๆอะไรอย่างนี้ ผู้หญิงผมก็คิดเป็นแบบนั้นไม่มีคนไหนที่คบกันนานๆเลยครับ เพราะเราตั้งใจเป็นความสนุกครับมันเหมือนตื่นเต้น คือ มันเหมือนให้เราค้นหาได้เรื่อยๆอย่างแบบ อุ้ย !! พี่ฉอด สวยจังครับผมก็จะชอบของผมอะไรอย่างนี้ก็จะลุยไป

ถาม ถ้าอย่างนั้นเคยอกหักไหม
ต๊ะ วริษฐ์ : ไม่มีครับ แค่ช่วงนั้นนะแค่ช่วงตอนเด็กนะเพราะผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของความสุขอะไรก็ได้ที่ทำให้เรามีความสุขแล้วเรามีความสุขตรงนั้นแล้ว เรารู้สึกว่าเริ่มจะไม่ดีแล้วผมรีบฉากตัวเองแล้วผมถอยออกก่อนนะ

ถาม เรามีมุมมองอย่างไรกับคำว่าความรัก
ต๊ะ วริษฐ์ : ผมชอบเขาเปลี่ยนบ่อยก็จริงนะ แต่ผมรู้สึกว่าผมจะไม่ยุ่งกับคนที่มีแฟนแล้วนะมันคือเรื่องที่ผมยึดไว้เลยว่า มีแฟนแล้ว แฟนเพื่อนห้ามคิดนะเว้ย !! มันคือสิ่งที่ห้ามคิดเลยผมรู้สึกว่าลูกผู้ชายอันนี้ยุ่งไม่ได้เลยเรื่องไปเป็นมือที่สามคนอื่นอะไรอย่างนี้ครับ

ถาม สารภาพตามตรงตอนคุยกับ แอน ตอนนั้นมีคนอื่นคุยด้วยอยู่หรือเปล่า
ต๊ะ วริษฐ์ : มีครับ 4 คนครับ รวม แอน เป็น 5 คนครับ แต่ผมก็บอกเขานะครับคือถึง ณ ช่วงเวลาของ แอน เนี่ยผมเริ่มรู้สึกว่าผมอยากจะหาใครสักคนที่จริงจังเพราะผมก็อายุ 20 กว่าปีจะ 30 ปีแล้วก็เลยแบบคงต้องหารักแท้แล้วก็เลยบอกเขาว่าบอกทั้งหมดว่าผมต้องการอย่างนี้นะ ผมกำลังจะหารักแท้นะ ผมขออนุญาตที่จะเรียนรู้กับอีก 4 คนนะถ้าแบบว่าเธอใช่มันคือใช่จริงๆแต่ผมก็อธิบายเขาอย่างนี้จริงๆนะครับ กับอีก 4 คนผมก็บอกแบบนี้เหมือนกันครับ

ถาม แอน ถามจริงๆคิดอย่างไรถึงได้ยอมคุยต่อกับเขา
แอน วริษฐา : ตอนเขาบอก แอน ว่า แอน เป็นคนที่ห้าเขาคุยอยู่สี่คนช็อกมาก ช็อกที่ว่านี่คือรู้สึกว่าเราไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนมั่นหน้าขนาดนี้มาก่อน (หัวเราะ) อยู่ๆก็เดินมาบอกเรา ซึ่งตอนนั้น แอน ยังไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลยนะคะ แต่เขาก็มีทีท่าชัดเจนว่าจีบเราเพราะว่าเขาโทรมาหาทุกวันชวนกินข้าว ชวนไปดูภาพยนตร์ ก็รู้สึกว่ามั่นหน้าดี
ถาม แต่นี่ความพยายามจีบอยู่แล้วบอกเป็นคนที่ 5 ทำไมยังอยู่ถามจริง
แอน วริษฐา : เพราะตอนนั้น แอน ไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลยเพราะว่า แอน ก็เพิ่งจะไม่สมหวังเรื่องความรักมา แต่ตอนนั้นที่คุยกับเขาเป็นเพราะว่าเราเหงาแล้วเขามาคุยด้วยเขาเป็นคนที่คุยสนุกเราเลยรู้สึกติดที่จะคุยกับเขา เพราะรู้สึกว่าสนุกแล้วก็ความเหงามันแบบน้อยลง

ถาม แล้วไม่กลัวเหรอถ้าเกิดเราชอบเขาขึ้นมาแล้วเราจะเจ็บไหม
แอน วริษฐา : ตอนนั้น แอน ไม่ได้คิดจะคบเขาค่ะ คือ ถ้าเกิดว่าเจอผู้ชายที่แบบเจ้าชู้เราไม่เอาอีกแล้ว

ถาม แล้วพอคุยไปคุยมาอะไรที่ทำให้คลิก
ต๊ะ วริษฐ์ : มันเป็นเรื่องของความรู้สึกผมนะเพราะว่าใน 4 คนที่ผมคุยเขาตามผมตลอดเลยมี แอน คนเดียวที่เขาไม่ตามผมเลย ไม่จิกผมเลย ที่เหลืออู้หู โทรยับเลยผมก็เลยรู้สึกว่า อุ้ย !! ทำไมผมถึงโทรหาเขาตลอดไงเพราะเขาไม่โทรหาผมเลย กลายเป็นแบบว่าเขาแปลกดีมันกลายเป็นเรื่องของความรู้สึกแปลกๆแล้วก็ท้าทายด้วย ทำไมเขาไม่โทรอย่างนั้นเราโทรเองก็ได้

ถาม จุดไหนที่เรารู้สึกว่าไม่สนๆแล้วแต่สนแล้ว
แอน วริษฐา : เขามีความสม่ำเสมอค่ะ โทรมาทุกวันชวนกินข้าวตลอด ชวนไปทำกิจกรรมด้วยกันตลอดเราก็รู้สึกว่าเขาเป็นพระเอกที่ฮอตมากในตอนนั้นทำไมเขาโทรหาเราทุกวัน เราเป็นคนธรรมดาทั่วไป ทำไมเขาอยากจะอยู่กับเราทุกวัน เอ๊ะ … หรือว่าเขาจะแบบจะจริงจังกับเราหรือเปล่าแล้วก็พฤติกรรมตลอดเวลาที่เขาคุยกับเราในช่วงแรกๆก็ดูรู้สึกว่าเขาใส่ใจไม่ได้แบบ ไปช็อปปิงไม่ได้เดินหลบห่างกันก็คือเดินไปด้วยกัน กินข้าวก็นั่งด้วยกัน คือ เขาไม่ได้ปิดบังหรืออะไรอย่างไร
ต๊ะ วริษฐ์ : คือ ผมไม่ได้กลัวโดนถ่ายไงตอนนั้น

ถาม ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ดีแล้วยังเท่านั้นยังไม่พอคู่นี้คู่ทรหดตัวจริง
ต๊ะ วริษฐ์ : มันเป็นช่วงเวลาต่อไปของชีวิตนะครับ พี่ฉอด มันก็คือพอเราตกลงปลงใจแต่งงานก็ต้องมีลูกใช่ไหมครับ พอเราตั้งใจจะมีลูกซึ่งก็ตั้งใจจริงๆปรากฏว่าแท้ง ซึ่งก็โหย … หนักพอสมควรเหมือนกันนะคนเป็นแม่จะหนักหน่อย
แอน วริษฐา : เพราะว่าตอนที่แบบแท้งลูกครั้งแรกค่ะ คือ เข้าห้องน้ำแบบคือปวดท้อง ตอนแรกปวดท้องก่อนปวดท้องแบบบีบๆ
ต๊ะ วริษฐ์ : พี่แล้ววันนั้นมันเป็นวันที่ผมไปทำงานคู่กันด้วย ทำงานเสร็จแล้วก็ลงมาที่แกรมมี่ด้วยปกติแอนจะเป็นคนที่พูดเก่งมาก วันนั้นในรายการไม่พูดเลยแล้วก็เหงื่อแตกพอถึงอเมซอน
แอน วริษฐา : เหงื่อเต็มหน้าไปหมดเลยค่ะ เพราะคนปวดท้องมากพอลงมาถึงร้านกาแฟปวดบีบขนาดที่ว่ายืนต่อไม่ได้คือล้มลง คือบีบปวดท้องบีบหัวเข่ากระแทกอย่างนี้เลยค่ะ ก็เลยไปโรงพยาบาลระหว่างรอเจอคุณหมอเราปวดท้องมากจนไม่รู้ว่าปวดท้องอะไรก็เข้าห้องน้ำพอเราเข้าน้ำเสร็จปั๊บ !! ก็ออกมาเลยมันคาตา ตอนนั้นก็คือเกือบๆสองเดือนค่ะ
ต๊ะ วริษฐ์ : คือ วันนั้นผมรู้สึกผิดนะครับ ผมก็รู้สึกโทษตัวเองเหมือนกันนะที่เอาเขาไปทำงานด้วย ซึ่งถ้าเราไปทำคนเดียวก็ได้นะลึกๆเราก็รู้สึกว่าโทษตัวเองพอสมควรเลย ณ ตอนนั้น
แอน วริษฐา : ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าเป็นเรื่องปกติ คือ ถ้าตัวอ่อนเขาไม่แข็งแรงมันเป็นกลไกธรรมชาติที่เขาจะไม่ไปต่อดีซะกว่าที่เราจะต้องแบบเจอเขาในลักษณะที่ไม่สมบูรณ์อันนั้นคือ ครั้งแรก ครั้งที่สองก็แท้งอีกค่ะ แต่ครั้งที่สองไม่รุนแรงเท่าครั้งแรกเนอะไม่ได้ปวดท้องหรือไม่ได้เห็นภาพอะไรขนาดนั้น

ถาม ตอนนั้นเราให้กำลังใจกันและกันอย่างไรบ้าง
ต๊ะ วริษฐ์ : ผมก็ต้องยิ้มนะทั้งๆที่ข้างในผมตกในเหมือนกันนะครับ เพราะผมก็อยากมีลูกตอนนั้น ผมรู้สึกแบบมันก็แย่แต่เราจะทำให้เขาเห็นไม่ได้ ถ้าเขาเห็นเขาจะยิ่งไปกันใหญ่ครับ ก็ต้องยิ้มให้เขายางทีก็ต้องเต้นโคโยตี้ให้เขาดูบ้างเพื่อให้เขารีแล็กซ์ให้เขาลืมๆ แต่ลึกๆแล้วมันก็เจ็บพอสมควร

ถาม ในแต่ละช่วงเวลาเราเห็นสารพัดสารพันอุปสรรคแบบนี้ไม่เคยทะเลาะกันเลย
ต๊ะ วริษฐ์ : ไม่เคยเลยผมก็งงเหมือนกันนะ ซึ่งแบบก็แปลกดี
ถาม อีกนิดหนึ่งเขี้ยวเล็บของเรามันหายไปหมดเลยเหรอ
ต๊ะ วริษฐ์ : ไมได้หายนะครับพี่ แต่มันเหมือนกับว่าผมพอแล้ว ผมไม่ต้องการความสุขแบบนั้นแล้ว ตอนนี้ความสุขของผมคือการดูแลเขาดูแลครอบครัวดูแลลูก คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้เขามีความสุขที่สุดตัวเองยังไว้สุดท้ายเลยนะตอนนี้ทุกวันวันนี้ครับ
แอน วริษฐา : อีกอย่างเขาเป็นคนใจเย็นด้วยค่ะ แต่แอน เป็นคนใจร้อนที่เราค่อยทะเลาะกันเพราะว่าสมมติมีอะไรที่ไม่พอใจไม่โอเคเราจะคุยกันเลยหรือว่าถ้าคิดว่าพูดกันแล้วจะทะเลาะเราจะใช้พิมพ์เอา พิมพ์เสร็จแล้วก็นั่งทวนอีกว่าที่เราพิมพ์ไปจะชวนทะเลาะไหมแล้วบอกเขาว่าแค่นี้แหละเหตุผมที่เรารู้สึกไม่พอใจ

สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป :



ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube