ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมก๊าซ ส.อ.ท. ชี้ 15 โรงงานพร้อมเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซออกซิเจนได้สูงสุด 2,200ตันต่อวัน มีเพียงพอ รักษาผู้ป่วยโควิด-19
นายพงศ์เทพ นรขำ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมก๊าซ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงมีการแพร่ระบาดรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการใช้งานออกซิเจนทางการแพทย์ในโรงพยาบาลและครัวเรือนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากออกซิเจนทางการแพทย์เป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการรักษา โดยเฉพาะผู้ติดเชื้ออาการหนักในโรงพยาบาล ผู้ติดเชื้อบางส่วนที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบการรักษาในโรงพยาบาล ทำให้หลายภาคส่วนเกิดข้อกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การขาดแคลนออกซิเจนทางการแพทย์ภายในประเทศ จึงมีการกักตุนโดยซื้อถังออกซิเจนและอุปกรณ์เครื่องผลิตออกซิเจนเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
สำหรับภาพรวมกำลังการผลิตก๊าซออกซิเจนทั้งประเทศอยู่ที่ 1,860 ตันต่อวัน จาก 15 โรงงาน ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สระบุรี ชลบุรี ระยอง สงขลา ลำพูน และเชียงใหม่ ยังมีโรงงานบรรจุท่อก๊าซออกซิเจนทางการแพทย์ทั่วประเทศประมาณ 130 โรงงาน ซึ่งหากเกิดกรณีฉุกเฉินยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตออกซิเจนได้ถึง 2,200 ตันต่อวัน ขณะที่ปริมาณการใช้ก๊าซออกซิเจนทั้งทางการแพทย์และอุตสาหกรรม ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1,260 ตันต่อวัน แบ่งเป็นปริมาณความต้องการออกซิเจนทางการแพทย์ประมาณ 400-600 ตันต่อวัน และความต้องการก๊าซออกซิเจนในภาคอุตสาหกรรมประมาณ 660 ตันต่อวัน และมี ท่อออกซิเจนทางการแพทย์หมุนเวียนอยู่ในระบบ 80,000-100,000 ท่อ
ทั้งนี้ อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนที่จัดหาและเก็บท่อก๊าซออกซิเจนไว้ใช้ที่บ้าน ขอให้จัดเก็บอย่างระมัดระวัง เนื่องจากท่อก๊าซออกซิเจนเป็นท่อที่มีความดันสูง หากจัดเก็บหรือใช้งานอย่างผิดวิธีอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ หากไม่มีความจำเป็นไม่แนะนำให้กักตุนไว้ในที่พักอาศัย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news