fbpx
Home
|
ทั่วไป

สรุปปมร้อน ส่วยทางหลวง สติ๊กเกอร์รถบรรทุก ติดปุ๊บผ่านด่านฉลุย

Featured Image

หลังจากนี้ การขับรถบนท้องถนนจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อสังคมจับตาประเด็นร้อนอย่าง ส่วยสติ๊กเกอร์ ที่ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาแฉ

โดยว่ากันว่า รถบรรทุกหลายคันเลือกแปะสติ๊กเกอร์ลายน่ารักๆ ที่แท้จริงแล้วเป็นบัตร Easy pass ผ่านด่านตรวจ ได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้จะขนของหนักเกินกฎหมายกำหนดก็ตาม

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร วันนี้สรุปมาให้ฟังแล้ว

ที่มาที่ไปของ ส่วยสติ๊กเกอร์

เรื่องทั้งหมดเริ่มขึ้นจาก ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร จากพรรคก้าวไกล ที่ตั้งประเด็นโพสต์แฉส่วยสติ๊กเกอร์ลงเฟซบุ๊กครั้งแรก เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา

โดยได้โพสต์รูปสติ๊กเกอร์การ์ตูนรูปพระอาทิตย์ยิ้มแฉ่งสีฟ้า-ขาวที่มีเลข 5 ไทยแปะอยู่หน้ารถ

พร้อมกับถามบนโลกออนไลน์ว่า

“เห็นสติ๊กเกอร์ Easy Pass แบบใหม่ ติดตามรถบรรทุก อยากบอกว่า เบาได้เบา เลิกได้เลิก นะครับ

 ทำไมรถบรรทุกหายคัน ถึงมีสติ๊กเกอร์แบบนี้ติดเอาไว้ ดูแล้วก็เห็นจะเท่อะไร ไม่น่าจะใช่สติ๊กเกอร์ตกแต่งรถ”

“บางคนก็บอกว่ามันเป็นระบบ Easy Pass แต่ผมดูแล้ว ก็เป็นแค่สติ๊กเกอร์เรียบๆ ไม่น่าจะมีระบบอิเล็กทรอนิกส์อะไร แต่ก็มีคนยืนยันว่ามันเป็น Easy Pass จริงๆ ถ้าติดแล้วผ่านฉลุยจริงๆ”

ส่งผลให้ในตอนแรก สติ๊กเกอร์เจ้าปัญหานี้ก็ยังถกเถียงกันอยู่ใต้คอมเมนต์ว่า มันมีอยู่จริงใช่ไหม? ใช้ได้กับรถบรรทุกอย่างได้หรือเปล่า? และจะมีรถแบบอื่นใช้ร่วมด้วยอีกหรือไม่?

พร้อมกับนักขับหลายคนเข้ามาเขียนคอมเมนต์ยืนยันสติ๊กเกอร์นี้ว่ามีจริงๆ มีลักษณะคล้ายส่วยให้ตำรวจ ต้องเสียตังค์ซื้อมาแปะไว้หน้ารถ 

และด้วยคำว่า Easy Pass ที่วิโรจน์ใช้ในโพสต์ ดันตรงกับ ระบบเก็บค่าผ่านทางของ ‘การทางพิเศษแห่งประเทศไทย’ ทำให้หน่วยงานดังกล่าว ออกมาแก้ตัวก่อนใครว่าสติ๊กเกอร์นี้ทางกรมทางพิเศษ ไม่ได้เป็นคนผลิตออกมา เพราะช่องทาง Easy pass ก็ไม่ได้เปิดให้รถบรรทุกด้วยเหมือนกัน

ซึ่งก็เหมือนเป็นการออกมายืนยัน นอนยันว่า สติ๊กเกอร์นี้ เป็นส่วยจากหน่วยงานอื่นแถมยังใช้กับรถบรรทุกอย่างเดียวเท่านั้น นับเป็นการช่วยขยี้ประเด็นส่วยสติ๊กเกอร์นี้ทันที

จากนั้นในวันต่อมา ส.ส.วิโรจน์ ได้โพสต์ภาพสติ๊กเกอร์อีกหลายรูปแบบที่คาดว่าเป็นส่วยสติ๊กเกอร์เช่นเดียวกัน

พร้อมนำข้อมูลจากคนวงในเล่าว่า สติ๊กเกอร์  Easy Pass นี้ มีหลายรูปแบบมาก ร่ำลือกันว่า ต่อให้บรรทุกเป็น 100 ตัน ก็ขับผ่านฉลุย แถมไม่ต้องเสียเวลาชั่ง

โดยจะมีองค์กรลึกลับไปไล่เคลียร์ แล้วเหมาจ่ายค่าปรับล่วงหน้าก่อน จากนั้นก็จะผลิตสติ๊กเกอร์ออกมาจำหน่ายให้กับรถบรรทุกต่างๆ ในราคาหลักพันบาทต่อเดือน

แพงมาก-น้อย ขึ้นอยู่กับระยะทาง และจำนวนด่าน ไม่มีกลไกอิเล็กทรอนิกส์อะไร ใช้แค่ตาสังเกต เห็นปุ๊บ เป็นอันว่ารู้กัน ไม่ต้องเลิ่กลั่ก แต่รับรองผ่านฉลุย

นอกจากนี้ ยังมีสติ๊กเกอร์รุ่น ‘เรารักประเทศไทย’ ที่วิ่งได้เฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สนนราคาค่าธรรมเนียมสูงถึง 25,000 บาทต่อเดือนต่อคัน ติดปุ๊บสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 70-100 ตันทันที

ต่อเนื่องกับโพสต์ของ ส.ส.วิโรจน์ ที่แฉต่อไม่หยุดว่า ขณะนี้ได้มีสติ๊กเกอร์เวอร์ชั่นใหม่เป็นรูป พระอาทิตย์สีส้มยิ้มแฉ่งหมายเลข 6  

พร้อมกับหวังว่ากรมทางหลวง และกองบังคับการตำรวจทางหลวง ไม่น่าจะยอมให้สติ๊กเกอร์ version 6.0 มาติดบนกระจกรถบรรทุก เย้ยกฎหมาย อย่างแน่นอน

 

คำบอกเล่าจากคนวงในถึงส่วยสติ๊กเกอร์

ส่วยสติ๊กเกอร์ที่อัปเดตเร็วอัปเดตไว แถมยังมีค่าบริการรายเดือนอย่างกับเน็ตฟลิกนี้

กลายมาเป็นปัญหาใหญ่ระดับภาค เพราะจากสถิติจำนวนรถบรรทุกในประเทศไทยล่าสุด พบว่ารถบรรทุกในไทยมีทั้งหมดมีมากกว่า 1 ล้านคัน

ถ้ารถบรรทุกสักครึ่งหนึ่ง ต้องมาถูกรีดไถเดือนละ 3,000-5,000 บาท เท่ากับว่าปีๆ หนึ่ง มูลค่าการคอร์รัปชั่น นี่อาจจะมากกว่า 20,000 ล้านบาท

ซึ่งประเด็นนี้เอง นายวิชัย สว่างขจร นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน ได้ให้ความรู้เช่นกันว่า สติ๊กเกอร์แบบนี้มีมานานแล้ว ถูกกวาดล้างไปหลายครั้ง แต่ก็จะกลับมาเรื่อยๆอีก

ส่วนต้นตอของปัญหาเกิดจาก การแข่งขันด้านการขนส่งสินค้าที่สูงมากขึ้น หากผู้ประกอบการเจ้าไหนสามารถส่งสินค้าได้ถูกกว่าและเยอะกว่า ก็มีโอกาสที่จะมีคนมาขอใช้บริการขนส่งต่อไปอีกเรื่อยๆ เพราะคุ้มค่าคุ้มราคา

และปัญหานี้ก็ส่งผลกระทบถึง กลุ่มคนขับรถบรรทุก ที่ต้องจำใจบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดต่ออีกทอดนึงอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

 

ผู้การฯทางหลวงชี้‘ส่วย’แค่ปัญหาปลายเหตุ

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว ถึงประเด็นส่วยทางหลวงที่เป็นเรื่องอยู่ในขณะนี้โดยออกมายอมรับว่าปัญหาเรื่องส่วย เป็นปัญหาที่มีมานานแล้ว แต่เป็นปัญหาปลายเหตุ

ปัญหาที่เป็นต้นเหตุก็คือเรื่องรถบรรทุกหนักเกินกำหนด จึงมองว่าการแก้ปัญหาควรแก้ในภาพรวม โดยเฉพาะเรื่องการแก้กฎหมาย

เนื่องจากข้อกฎหมายปัจจุบันเอาผิดแค่ผู้ขับขี่ ไม่ใช่ผู้ประกอบการ หากผู้ประกอบการไม่ได้ผิด ก็จะเกิดการกระทำความผิดซ้ำ

พร้อมกับสั่งการให้ กองบังคับการตำรวจทางหลวง ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีผู้ประกอบการ หรือ เจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทำผิดกฏหมาย ก็จะดำเนินวินัยอย่างเด็ดขาด

สรุปก็คือ ตำรวจทางหลวงรู้ปัญหานี้อยู่แล้ว แต่แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะเรื่องส่วยเป็นปัญหาปลายเหตุที่เกิดขึ้น แต่ปัญหาจริงๆมันอยู่ที่การบรรทุกของที่นำหนักเกินไปต่างหาก

ส่งผลให้ไม่กี่อึดใจ ส.ส.วิโรจน์ ก็มีความเห็นแย้งคำพูดของ พล.ต.ต.เอกราช ทันที โดยได้ระบุว่า

ปัญหาสติ๊กเกอร์ส่วยนี้ ต้นเหตุจะเป็นอะไรก็ช่าง แต่ตำรวจจะเอามาอ้างเป็นเหตุในการรีดไถ เก็บส่วยไม่ได้  ผิดกฎหมาย ก็จับ ปรับ ดำเนินคดี

ถ้ากฎหมายไม่ทันสมัย มีช่องโหว่ ก็แก้ไขกฎหมายให้เหมาะสม ต้นทางจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ แต่ปลายทาง มันต้องไม่ใช่ “ส่วย” แน่ๆ

          สมฉายา วิโรจน์อุกกาบาต ที่ ทิม พิธา หัวหน้าพรรคมอบให้กับการแฉขบวนการสติ๊กเกอร์เถื่อนนี้จริงๆ และในฐานะนักอ่านที่ใช้รถใช้ถนนอาจต้องทนทุกข์กับสภาพถนนขรุขระ เป็นหลุมเป็นต่อไป หากหน่วยที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการกวาดล้างอย่างจริงจัง

ติดตามดราม่าร้อน ประเด็นดังแบบไม่ตกเทรนด์ต่อได้ที่ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube