fbpx
Home
|
ข่าว

“สนธิรัตน์” เผย 5 นโยบายเร่งด่วนพปชร.

Featured Image
“สนธิรัตน์” เผย 5 นโยบายเร่งด่วนพปชร. ตั้งเป้าแก้กองทุนประชารัฐ SMEs Wallet และศูนย์ส่งเสริมเศรษฐกิจ SMEs ครบวงจร

 

 

 

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ ร่วมแสดงวิสัยทัศน์สู่สนามเลือกตั้งปี 2566 ในงาน IBusiness Forum 2023 “The Next Thailand’ s Future : จุดเปลี่ยนประเทศไทยสู่ความยั่งยืน”

 

 

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า หากพรรคพลังประชารัฐได้เข้าไปบริหารเศรษฐกิจของประเทศหลังการเลือกตั้ง ต้องนำ 4 เครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยกลับมาเน้นย้ำ ได้แก่ การท่องเที่ยวการส่งออก การลงทุน และการใช้จ่ายภาครัฐ โดยการท่องเที่ยว จะเป็นเครื่องจักรสำคัญในด้านเศรษฐกิจ ซึ่งนโยบายของพรรคพลังประชารัฐคือจะใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วเติมเข้าไป ไม่ใช่เฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยว แต่ยังรวมถึงเรื่องคุณภาพของการท่องเที่ยว ทั้งนักท่องเที่ยวที่มีรายได้สูงหรือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยเชื่อมโยงการท่องเที่ยวชุมชนกับการท่องเที่ยวเชิงมหภาคด้วย

 

 

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า สำหรับการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐเคยผลักดันมาแล้วตั้งแต่การก่อตั้ง EEC และการขับเคลื่อนโครงสร้างการส่งออกที่ไปอยู่ในเครื่องยนต์ใหม่ ๆ เพิ่มความสามารถของเศรษฐกิจใหม่ๆ ภายใต้การขับเคลื่อน 3 เรื่องเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ Innovation Economy, Digital Economy และ BCG ที่เรามีอยู่แล้ว โดย BCG ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะสอดรับกับจุดแข็งของประเทศไทยที่เป็นประเทศเกษตร ซึ่งการส่งออกต้องเปลี่ยนผ่านโครงสร้างของการส่งออกในประเทศไทยทั้งภาคเกษตร และอุตสาหกรรม รวมทั้งเตรียมพร้อมต่อการแข่งขันให้ได้

นอกจากนี้ นายสนธิรัตน์ ยังได้กล่าวถึง 5 นโยบายเร่งด่วนที่สำคัญที่พรรคพลังประชารัฐจะทำประกอบด้วย 1. แก้หนี้ เติมทุน เพิ่มทักษะ สร้างโอกาส 2. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มวงเงินบัตรประชารัฐ ทำให้เกิดประโยชน์ให้ประชาชนมากขึ้น ยืนยันเดินหน้าต่อยอด เป็นนโยบายหลักของพรรค 3. สิทธิที่ดินทำกิน 4. การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ และป้องกันน้ำท่วม และ 5. การดูแลคนไทยทุกช่วงวัย

 

 

“พรรคพลังประชารัฐ ได้ประกาศเป้าหมายที่จะแก้ปัญหาให้เอสเอ็มอีคือเรื่องกองทุนประชารัฐ SMEs Wallet และศูนย์ส่งเสริมเศรษฐกิจ SMEs ครบวงจร รวมถึงการเปลี่ยนบทบาทของรัฐในการส่งเสริมเอสเอ็มอี โดยเฉพาะสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (สสว.) ที่ต้องปรับบทบาทครั้งใหญ่ หากกลไกของรัฐใน สสว. และกระทรวงต่าง ๆ ไม่ปรับบทบาทจะไม่สามารถขับเคลื่อนได้ สสว. ควรเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่เชิงนโยบาย ทำหน้าที่ดูแลงบประมาณ และประเมินผล” นายสนธิรัตน์ กล่าว

 

 

ในเรื่องพลังงาน นายสนธิรัตน์ ระบุว่า มี 3 เรื่องใหญ่ๆ ที่ต้องเปลี่ยนแปลง 1. เรื่องน้ำมัน พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายชัดเจนคือปฏิรูปโครงสร้างน้ำมัน ทำให้ได้ราคาที่เป็นธรรม รวมถึงลดการใช้น้ำมัน โดยจะใช้นโยบายการเปลี่ยนผ่านสู่อีวีเต็มรูปแบบ เปลี่ยนรถเก่าเป็นรถพลังงานอีวี 2. เรื่องไฟฟ้า มีนโยบายชัดเจนคือจะลดค่าใช้จ่ายให้พี่น้องประชาชน เน้นการติดตั้งโซล่าเซลล์บนหลังคาเรือน รวมถึง Net Metering หากทำเรื่องนี้ได้จะเพิ่มรายได้ และลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนและ 3. โรงไฟฟ้าชุมชน

 

 

จะเป็นอีกนโยบายหลักของพรรคพลังประชารัฐด้วย ทั้งหมดคือสิ่งที่เราต้องเร่งยกระดับเครื่องยนต์เดิม เพิ่มศักยภาพเครื่องยนต์ใหม่ ทั้งเรื่องอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์ ท่องเที่ยว เกษตรและเทคโนโลยี เรื่องการเกษตร นโยบายของพรรคเราต้องเปลี่ยนผ่านเกษตรสู่เกษตรพลังงาน ไบโอเจ็ท หรือน้ำมันเครื่องบินจากพืชพลังงาน

 

 

“ผมขอเน้นย้ำว่า ไม่ว่านโยบายใดจะดีแค่ไหนอย่างไร หากประเทศมีการเมืองที่ไม่มั่นคง มีการเมืองเชิงความขัดแย้ง สิ่งที่เป็นนโยบายทั้งหลายนั้นก็เป็นเพียงนโยบายในการหาเสียง แต่ไม่สามารถขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติได้ วันนี้ พรรคพลังประชารัฐจึงได้ประกาศแล้วว่า จะก้าวข้ามความขัดแย้ง และพร้อมนำพาประเทศไทยให้มีความสมดุลทางการเมือง และนำทุกนโยบายที่เราได้หาเสียง ไปสู่การปฏิบัติให้สำเร็จ” นายสนธิรัตน์ กล่าว

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube