จับกุมสาวแก๊งตกทอง พบทำมานานกว่า 30 ปี มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุม นางรัตนาหรือแอ๊ด (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ดังนี้
1. หมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ จ.205 / 62 ลง 27 มิ.ย.62 ฐานกระทำความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น”
2. หมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ จ.50/62 ลง 15 ก.พ.62 ฐานกระทำความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”
3. หมายจับศาลจังหวัดพิมาย ที่ จ.4/62 ลง 18 ม.ค.62 ฐานกระทำความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”
4. หมายจับศาลแขวงราชบุรี ที่ จ.98/61 ลง 23 ส.ค.61 ฐานกระทำความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”
5. หมายจับศาลแขวงสุพรรณบุรี ที่ จ.126/61 ลง 31 ก.ค.61 ฐานกระทำความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”
พฤติการณ์ เมื่อประมาณปี 2561 นางรัตนา ผู้ต้องหากับพวกรวม 8 คน ร่วมกันตระเวนก่อเหตุตกทองตามตลาดนัด, งานมหรสพต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยจะเลือกเหยื่อที่ดูมีอายุและมาคนเดียว เมื่อเลือกเหยื่อได้แล้ว ผู้ต้องหากับพวกก็จะแสดงละครโดยการให้พวกของตนทำทีว่าทำกระเป๋าเงินหล่นหาย พร้อมบอกกับคนในตลาดว่าภายในกระเป๋ามีเงินและทองคำจำนวนมาก
ผู้ต้องหาเห็นว่าผู้เสียหายยืนอยู่ตามลำพังแล้ว จึงได้เดินเข้ามาหาผู้เสียหายพร้อมกับพวกอีกคนหนึ่งว่าตนเก็บกระเป๋าเงินที่หล่นหายได้ ซึ่งภายในกระเป๋ามีทองคำและทรัพย์สินอื่นจำนวนมาก แต่หาเจ้าของกระเป๋าไม่เจอ จากนั้นผู้ต้องหาชวนผู้เสียหายพูดคุยตีสนิท และออกอุบายโดยการกล่อมผู้เสียหายว่าในกระเป๋าเงินที่เก็บได้มีสร้อยคอทองคำ และอยากจะแบ่งให้ตนเองกับผู้เสียหายในจำนวนเท่า ๆ กัน
เมื่อผู้เสียหายเห็นว่าในกระเป๋าเงินมีสร้อยคอทองคำอยู่จริงทำให้ผู้เสียหายเกิดความโลภอยากได้จึงรีบตอบ “ตกลง” จากนั้นผู้ต้องหาทำทีหยิบสร้อยคอทองคำในกระเป๋าออกมาจับเล่นแล้วบอกกับผู้เสียหายว่าจะนำไปขายและจ่ายส่วนแบ่งต่อมาได้ออกอุบายว่าจะไปหยิบเงินในรถ โดยจะฝากกระเป๋าเงินพร้อมกับสร้อยคอทองคำให้ผู้เสียหายถือไว้ แต่มีเงื่อนไขว่าผู้เสียหายจะต้องวางหลักประกันไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เสียหายนำสร้อยคอทองคำหลบหนี โดยผู้ต้องหาขอเป็นกำไลข้อมือของผู้เสียหายไว้เป็นหลักประกัน หลังจากที่ผู้ต้องหารับกำไลข้อมือจากผู้เสียหายแล้ว ได้เดินหลบหนีหายไป
ผู้เสียหายซึ่งยืนรออยู่นานจนผิดสังเกต จึงได้เปิดดูภายในกระเป๋าเงินพบว่าสร้อยคอทองคำดังกล่าวเป็นสร้อยคอทองคำปลอม จึงเชื่อว่าตนเองถูกแก๊งตกทองหลอกลวง จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหากับพวก ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายประกาศสืบจับผู้ต้องหากับพวกดังกล่าว
ภายหลังการจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนกับพวกหลอกลวงเหยื่อตามพฤติการณ์ดังกล่าวข้างตนจริง โดยใช้วิธีการกับเหยื่อแบบเดิมซ้ำ ๆ ซึ่งก่อเหตุมาแล้วกว่า 30 ปี และมีผู้เสียหายหลายร้อยรายทั่วประเทศ มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท และจากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหากับพวกถูกออกหมายประกาศสืบจับทั่วประเทศคนละหลายหมาย ซึ่งสมาชิกบางส่วนยังไม่เคยถูกจับกุม และอยู่ระหว่างการหลบหนี สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews